ไทยแลนด์
Friday 19th of April 2024
0
نفر 0

ชีวประวัติอิมามอะลี อัรริฎอ

ชีวประวัติอิมามอะลี อัรริฎอ อิมามท่านที่แปดของชีอะฮ์ อิมามียะฮ์ มีนามว่า อะลี สร้อยนามของท่านคือ อัรริฏอ ประสูติเมื่อวันที่ 11 เดือน ซุลเกาะดะฮ์ ปีฮิจเราะห์ศักราชที่ 148 ในเมืองมะดีนะฮ์ บิดาของท่านคือท่านอิมามมูซา กาซิม (อ) ในเรื่องมารดาของท่านมีความขัดแย้งกันซึ่งบางรายงานกล่าวว่า มารดาของท่านมีนามว่า ตุกตัม แต่พอหลังจากที่คลอดท่านอิมามริฏอ(อ) ท่าน อิมามมูซา อัลกอซิม(อ) เปลี่ยนชื่อโดยเรียกท่านว่า "ฏอฮิเราะห์" ส่วนในอีก
ชีวประวัติอิมามอะลี อัรริฎอ

ชีวประวัติอิมามอะลี อัรริฎอ

อิมามท่านที่แปดของชีอะฮ์ อิมามียะฮ์ มีนามว่า อะลี สร้อยนามของท่านคือ อัรริฏอ ประสูติเมื่อวันที่ 11 เดือน ซุลเกาะดะฮ์ ปีฮิจเราะห์ศักราชที่ 148 ในเมืองมะดีนะฮ์ บิดาของท่านคือท่านอิมามมูซา กาซิม (อ) ในเรื่องมารดาของท่านมีความขัดแย้งกันซึ่งบางรายงานกล่าวว่า มารดาของท่านมีนามว่า ตุกตัม แต่พอหลังจากที่คลอดท่านอิมามริฏอ(อ) ท่าน อิมามมูซา อัลกอซิม(อ) เปลี่ยนชื่อโดยเรียกท่านว่า "ฏอฮิเราะห์" ส่วนในอีกบางรายงานกล่าวว่า มารดาของท่าน มีนามว่า "นัจญ์มะ" หรือ "คัยซะรอน"เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม


ท่านดำรงตำแหน่งอิมามในขณะที่ท่านอายุ 35 ปี ในช่วงเวลาการปกครองของคอลิฟะฮ์ราชวงศ์อับบาซีดสามคนก็คือ ฮารูน อัรรอชีด (ปกครองช่วงปีฮิจเราะห์ที่ 170-193) มุฮัมมัด อามีน (ปกครองอยู่ประมาณช่วงปีฮิจเราะห์ 193-198) และ อับดุลลอห์ อัลมะอ์มูน (ปกครองอยู่ถึงปีฮิจเราะห์ที่ 218)


สถานการณ์ทางสังคมและการเมืองในยุคของท่าน อิมาม แตกต่างกับยุคบิดาของท่านเป็นอย่างยิ่ง ในยุคของบิดาของท่าน ท่านอิมามมูซา อัลกอซิม และชีอะฮ์ของท่าน ถูกบีบคั้นจนถึงขั้นต้องอำพรางตนในบางโอกาส


แต่ในยุคของท่านอิมามอะลี อัรริฏอ (อ) การถูกบีบบังคับจากฝ่ายผู้ปกครองก็ลดน้อยลงไป และสามารถแสดงออกถึงจุดยืน ความเชื่อศรัทธาได้อย่างเปิดเผย อาจจะด้วยสาเหตุที่ ฮารูน รอชีด คุมขังพร้อมกับลอบสังหารบิดาของท่านใน ที่คุมขัง จนทำให้ผู้คนในยุคนั้นเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ฝ่ายผู้ปกครองได้ทำสิ่งที่รุนแรงต่ออะฮ์ลุลบัยต์ของท่านศาสดา (ศ) ซึ่งเห็นได้จากความโมโหอย่างฉุนเฉียวของ ฮารูน รอชีด เมื่อยะห์ยา อิบนุ คอลิด บัรมะกีย์ คนสนิทของฮารูนเอง ได้ยุยงให้เขาสังหารท่านอิมามริฏอ (อ) อีก ภายหลังจากที่ได้ลอบสังหารท่านอิมามมูซา กาซิม (อ) ไปแล้ว ซึ่งฮารูนได้ตอบแก่เขาว่า สิ่งที่ได้ทำกับบิดาของเขายังไม่พอเพียงอีกหรือ ? เจ้าต้องการให้ข้าสังหารพวกอะละวี ให้สิ้นซากไปหมดเลยกระนั้นหรือ ?


ส่วนอีกประการหนึ่งที่ทำให้สถานการณ์ในยุคของท่านอิมามไม่รุนแรง และไม่ได้รับการบีบคั้นจากฝ่ายผู้ปกครองในระยะหนึ่งก็คือ เมื่อฮารูน เสียชีวิตลง บุตรชายของเขาสองคนก็คือ มุฮัมมัด อามีน และอับดุลลอห์ มะอ์มูน ขัดแย้งกันอย่างรุนแรงถึงกับทำสงครามต่อกันจนในที่สุด อับดุลลอห์ อัลมะอ์มูน ได้รับชัยชนะ และสังหารอามีนอย่างเหี้ยมโหด ซึ่งในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ท่านอิมามได้ทำการสั่งสอนผู้คนโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อบรรดาชีอะฮ์ของท่านที่ รับรู้ถึงความเชื่อความศรัทธาที่ถูกต้องของอิสลาม ตลอดจนอรรถาธิบายหลักการต่างๆ ของศาสนาอิสลามให้ผู้คนในยุคนั้นได้รับทราบ


ท่านอิมาม อะลี อัรริฏอ (อ) ถูกลอบสังหารด้วยการวางยาพิษ ผู้อยู่เบื้องหลังการลอบวางยาพิษคือ อัลมะอ์มูน โดยเสียชีวิตในหนทางของพระผู้เป็นเจ้า (ชะฮีด) ในปีฮิจเราะห์ที่ 203 ร่างของท่านถูกฝังอยู่ในเมืองมะฮ์ชัด ประเทศอิหร่าน ในปัจจุบัน


สุนทโรวาทจากท่านอิมามอะลี ริฎอ (อ.)

1-ผู้ใดที่ได้สอบสวนตัวเองอยู่เสมอ เขาก็จะมีกำไร ผู้ใดที่หลงลืมในเรื่องนั้นเขาก็จะขาดทุน และผู้ใดมีความเกรงกลัวต่ออัลลอฮ์ เขาก็จะปลอดภัย และผู้ใดใช้วิจารณญาณเขาก็จะมองเห็น และผู้ใดได้มองเห็นเขาก็จะเข้าใจ และผู้ใดเข้าใจเขาก็จะมีความรู้


2-ท่านอิมาม (อ.) ถูกถามเกี่ยวกับการเป็นบ่าวที่ดีของอัลลอฮ์ ท่านอิมาม (อ.) กล่าวตอบว่า "ได้แก่บรรดาผู้ซึ่งเมื่อพวกเขาได้กระทำความดีก็จะมีความยินดี เมื่อพวกเขาทำความผิดก็จะขอภัยโทษ เมื่อพวกเขาได้รับมอบสิ่งใดๆ ก็จะขอบคุณ เมื่อพวกเขาได้รับการทดสอบก็จะอดทน และเมื่อพวกเขาโกรธ ก็มีการให้การผ่อนปรน"


3-ความลุ่มหลงในตนมีหลายระดับ คือการที่งานอันชั่วร้ายของบ่าวคนหนึ่งที่ถูกตบแต่งให้เกิดความประทับใจแก่ตนเอง จนทำให้มองเห็นว่าเป็นความดี แล้วเขาก็มีความชื่นชอบกับงานนั้น และคิดว่านั่นคือผลงานอันหนึ่งที่เขาได้สร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างดีที่สุด อีกประเภทหนึ่งคือ การที่คนๆหนึ่งศรัทธาต่อพระผู้อภิบาล แล้วมีความฮึกเหิมในจิตใจว่าตนเองมีบุญคุณต่ออัลลอฮ์ และลำพองใจว่าตนจะต้องได้รับความโปรดปรานจากอัลลอฮ์


4-ความสงบเงียบคือ ประตูบานหนึ่งของวิทยปัญญา แท้จริงความสงบเงียบจะสร้างสรรค์ความรักให้บังเกิดขึ้น แท้จริงมันคือ สื่อนำไปสู่ความดีงามทุกประการ


5-แท้จริงอัลลอฮ์ทรงกริ้วโกรธคำพูดที่เลื่อนลอยและไร้สาระ การใช้จ่ายทรัพย์สินด้วยความสุรุ่ยสุร่าย และการขออย่างมากมาย


6-ไม่มีความสุขสำหรับคนตระหนี่ ไม่มีความรื่นเริงและหรรษาใดๆ สำหรับคนอิจฉาริษยา ไม่มีความซื่อสัตย์และความไว้วางใจใดๆ สำหรับพวกจักรพรรดิ์ และไม่มีความเป็นชายชาตรีสำหรับคนโกหก


7-จงอย่านั่งร่วมกับคนดื่มสุรา และจงอย่าให้สลามแก่เขา


8-จงผูกไมตรีกับเครือญาติของท่าน แม้เพียงแค่ด้วยการดื่มน้ำ แต่การผูกไมตรีที่ดีที่สุดกับเครือญาติคือ การปกป้องมิให้เขาได้รับอันตราย


9-ส่วนหนึ่งจากจริยธรรมของบรรดาศาสดา คือการรักษาความสะอาด


10-ทรัพย์สินที่ประเสริฐที่สุด คือสิ่งที่เป็นการปกป้องเกียรติยศของมนุษย์


ขอขอบคุณเว็บไซต์อะฮ์ลุลบัยต์อะคาเดมี

0
0% (نفر 0)
 
نظر شما در مورد این مطلب ؟
 
امتیاز شما به این مطلب ؟
اشتراک گذاری در شبکه های اجتماعی:

latest article

สงคราม “อาร์มาเกดอน” ...
ความสำคัญของน้ำนมแม่ ...
อิมามญะอ์ฟัร ซอดิก (อ.) ...
อาลัมบัรซัค ...
อิสลาม : ศาสนาแห่งสันติ
สถานภาพการเมือง ...
คุณค่าของการเศาะลาวาต
หมายเหตุการเข้ารับอิสลาม ...
...
การพลี” สูงสุดของการพิสูจน์ ...

 
user comment