ไทยแลนด์
Friday 19th of April 2024
0
نفر 0

Ayatullah al Uzhma Nashir Makarim Shirazه salah seorang ulama besar Iran menerima kunjungan keluarga pelajar Indonesia yang terhimpun dalam Himpunan Pelajar Indonesia (HPI) Iran pada rabu (6/4) sore hari pkl. 18.00 waktu setempat di Qom Republik Islam Ir

ชีวประวัติอิมามอะลี อันนะกีย์ อัล-ฮาดีย์(อ.) อิมามอะลี อันนะกีย์ อัล-ฮาดีย์(อ.) ประสูติที่เมืองมะดีนะฮ์ เมื่อวันที่ 15 ซุลฮิจญะฮ์ ฮ.ศ.212(ค.ศ.827) และเสียชีวิต ณ เมืองซะมัรรอ ประเทศอิรัก เมื่อวันที่ 3 รอญับ ฮ.ศ.254(ค.ศ.868) รวมอายุทั้งสิน 42 ปี ดำรงตำแหน่งอิมาม 34 ปีเว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม ยุคสมัยการดำรงตำแหน่งอิมามของอิมามอะลี อัล-ฮาดีย์(อ.) อิมามท่านที่ 10 ของชีอะฮ์อิมามียะฮ์ ตรงกับช่วงที่
 Ayatullah al Uzhma Nashir Makarim Shirazه salah seorang ulama besar Iran menerima kunjungan keluarga pelajar Indonesia yang terhimpun dalam Himpunan Pelajar Indonesia (HPI) Iran pada rabu (6/4) sore hari pkl. 18.00 waktu setempat di Qom Republik Islam Ir

ชีวประวัติอิมามอะลี อันนะกีย์ อัล-ฮาดีย์(อ.)

อิมามอะลี อันนะกีย์ อัล-ฮาดีย์(อ.) ประสูติที่เมืองมะดีนะฮ์ เมื่อวันที่ 15 ซุลฮิจญะฮ์ ฮ.ศ.212(ค.ศ.827) และเสียชีวิต ณ เมืองซะมัรรอ ประเทศอิรัก เมื่อวันที่ 3 รอญับ ฮ.ศ.254(ค.ศ.868) รวมอายุทั้งสิน 42 ปี ดำรงตำแหน่งอิมาม 34 ปีเว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

ยุคสมัยการดำรงตำแหน่งอิมามของอิมามอะลี อัล-ฮาดีย์(อ.) อิมามท่านที่ 10 ของชีอะฮ์อิมามียะฮ์ ตรงกับช่วงที่อำนาจของราชวงศ์อับบาซีดกำลังตกต่ำ พวกเขาถูกคุกคามโดยพวกเติร์กและต้องย้ายเมืองหลวงจากกรุงแบกแดดไปยังซะมัรรอ ท่านมีอายุประมาณ 8 ปีเมื่ออิมามมุฮัมมัด ญะวาด(อ.) บิดาของท่านได้เป็นชะฮีดจากการถูกลอบวางยาพิษโดยคอลิฟะฮ์มุอฺตะซิม บิลละฮ์

อิมามอะลี อัล-ฮาดีย์(อ.) ยังคงอยู่ที่มะดีนะฮ์ในสมัยปกครองของมุอฺตะซิมอีก 8 ปี และในสมัยปกครองของวาษิก บิลละฮ์ อีก 5 ปี จนกระทั่งเมื่อมุตะวักกิลได้ขึ้นเป็นคอลิฟะฮ์ในปี ฮ.ศ.236 อิมาม(อ.) จึงถูกเรียกตัวไปยังแบกแดดเมืองหลวงของตระกูลอับบาสิด มุตะวักกิลเป็นศัตรูของอะฮ์ลุลบัยต์(อ.)ที่โหดร้ายและกระหายเลือดมากที่สุด เขาเคยพยายามทำให้สุสานของอิมามฮุเซน(อ.) ที่กัรบะลาจมอยู่ใต้น้ำด้วยการกันสายน้ำจากแม่น้ำยูเฟรติสให้ไหลมาทางสุสานของท่าน แต่สายน้ำนั้นได้โอบล้อมสุสานของท่านโดยไม่ไหลไปด้านบนอย่างน่ามหัศจรรย์ ทั้งที่พื้นดินโดยรอบนั้นสูงกว่าสุสานที่ตั้งอยู่ในที่ลุ่ม เมื่อคอลิฟะฮ์รู้ว่าทำให้น้ำท่วมสุสานไม่สำเร็จจึงสั่งให้เปลี่ยนพื้นที่ทั้งหมดเป็นที่เพาะปลูก แต่ม้าไม่สามารถลากคราดไปบนสุสานของท่านได้ ในที่สุดเขาจึงยอมแพ้และปล่อยสุสานของท่านไว้เช่นนั้น แต่ได้สั่งห้ามไม่ให้มีการไปเยี่ยมคารวะสุสานของอิมามฮุเวน(อ.) ตราบที่เขามีชีวิตอยู่ ประวัติศาสตร์บอกเราว่าบรรดามุสลิมได้ไปเยือนสุสานของอิมามฮุเซน(อ.) นายแห่งชุฮะดา อย่างต่อเนื่อง แม้จะเป็นอันตรายต่อชีวิตของพวกเขาก็ตาม

ในยุคสมัยการปกครองของมุตะวักกิลนี้เองที่อิมามอะลี อัล-ฮาดีย์(อ.) ถูกเรียกตัวมาพบคอลิฟะฮ์จากมะดีนะฮ์มายังแบกแดด ท่านยะอฺกูบีเขียนไว้ในบันทึกประวัติศาสตร์ของท่านว่า เมื่อเหล่าทหารหน่วยจู่โจมพบตัวอิมาม(อ.) นั่งอยู่บนเสื่อปูนมาซของท่าน พวกเขาก็นำตัวท่านไปพบคอลิฟะฮ์ในลักษณะนั้นทันที มุตะวักกิลกำลังสนุกสนานกับการดื่มยามค่ำคืนและได้ชวนอิมามให้ร่วมดื่มกับเขา อิมาม(อ.) ตอบว่า "สุราเช่นนั้นไม่เคยได้ผสมปนกันกับเลือดเนื้อของฉัน" คอลิฟะฮ์ผู้กึ่งเมาขอให้อิมามอ่านกวีให้เขาฟังหน่อย แต่อิมาม(อ.) ตอบว่า ท่านไม่เคยมีนิสัยเช่นนั้น แต่เมื่อคอลิฟะฮ์คาดคั้น อิมามจึงท่องบางอย่างให้เขาฟัง ดังต่อไปนี้ (อิบนฺ คอลิกัน รายงานเรื่องนี้ทุกถ้อยคำ)

"พวกเขาผ่านคืนนั้นบนยอดขุนเขาด้วยการปกป้องของเหล่านักรบผู้องอาจ แต่ขุนเขาเหล่านี้ไม่ได้ปกป้องพวกเขา

หลังจากอำนาจและเกียรติยศทั้งหลายผ่านพ้นไป พวกเขาต้องคล้อยลงจากความสูงตระหง่านนั้นเพื่อไปยังการจองจำของสุสาน

โอ้ ช่างเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ร้ายกาจยิ่ง สุสานแทบจะไม่รับพวกเขาไว้เมื่อได้ยินเสียงร้องอุทานว่า 'บัลลังก์และมงกุฎกับเสื้อคลุมของฉันอยู่ไหน? ใบหน้าสวยๆ งามๆ ใต้ผ้าคลุมหน้าและอยู่หลังม่านกั้นอยู่ไหนแล้วตอนนี้?'

สุสานตอบว่า 'ฝูงหนอนกำลังรุมทึ้งใบหน้าเหล่านั้นอยู่ คนเหล่านี้เป็นนักกินนักดื่มมานานแล้ว บัดนี้พวกเขาจะถูกกินคืนโดยฝูงหนอน'

หลายคนที่ได้ยินถ้อยคำของอิมาม(อ.) แล้วถึงกับร้องไห้ คอลิฟะฮ์ปล่อยตัวอิมามไปชั่วระยะหนึ่ง แต่ยังคงกักบริเวณท่านไว้ในบ้านพัก ในที่สุด มะตุวักกิลเสียชีวิตด้วยน้ำมือองครักษ์ของเขาเอง ซึ่งเป็นชาวเติร์ก และมุนตะซิร บุตรชายของเขาได้เป็นคอลิฟะฮ์คนต่อไป

มุตะวักกิลเสียชีวิตในปี ฮ.ศ.250 และมุนตะซิร บิลละฮ์ ขึ้นดำรงตำแหน่งคอลิฟะฮ์ เขาปกครองเป็นเวลาเพียง 6 เดือน หลังจากนั้น มุสตะอีนได้ขึ้นครองอำนาจ แต่เพียงไม่นานเขาก็ถูกตัดหัวและสืบอำนาจต่อโดยมุอฺตัส บิลละฮ์

ตลอดระยะเวลาเปลี่ยนถ่ายอำนาจเหล่านี้ อิมามอะลี อัล-ฮาดีย์ไม่ได้กลับไปยังมะดีนะฮ์ และไม่ได้ถูกเรียกตัวเข้าพบคอลิฟะฮ์ ท่านอยู่ที่ซะมัรรอซึ่งท่านได้ใช้ชีวิตอยู่ภายใต้การถูกกักบริเวณภายในบ้านพักจนกระทั่งลมหายใจสุดท้าย

ขอขอบคุณเว็บไซต์อะฮ์ลุลบัยต์อะคาเดมี


source : alhassanain
0
0% (نفر 0)
 
نظر شما در مورد این مطلب ؟
 
امتیاز شما به این مطلب ؟
اشتراک گذاری در شبکه های اجتماعی:

latest article

สงคราม “อาร์มาเกดอน” ...
ความสำคัญของน้ำนมแม่ ...
อิมามญะอ์ฟัร ซอดิก (อ.) ...
อาลัมบัรซัค ...
อิสลาม : ศาสนาแห่งสันติ
สถานภาพการเมือง ...
คุณค่าของการเศาะลาวาต
หมายเหตุการเข้ารับอิสลาม ...
...
การพลี” สูงสุดของการพิสูจน์ ...

 
user comment