ไทยแลนด์
Tuesday 16th of April 2024
0
نفر 0

ชะฮีด” ข้อพิสูจน์ของการเลือกสิ่งที่ดีกว่าในขบวนการอาชูรอ

ชะฮีด” ข้อพิสูจน์ของการเลือกสิ่งที่ดีกว่าในขบวนการอาชูรอ

“ชะฮีด” ข้อพิสูจน์ของการเลือกสิ่งที่ดีกว่าในขบวนการอาชูรอ

 

 
อะไรคือข้อพิสูจน์ว่า ขบวนการนี้เลือกสิ่งที่ดีกว่า ?

 
บรรดาเหล่าชูฮาดาจำนวนมากถูกทดสอบ “ระหว่างสิ่งที่ดีกับสิ่งที่ดีกว่า” เมื่อท่านอิมามฮุเซน (อ”) ได้ปลดเปลื้องพวกเขาออกจากทุกพันธนาการ แม้พันธนาการแห่งชะรีอัต (บทบัญญัติ) ก็ตาม โดยการกล่าวแก่ทุกคนว่า “ใครที่ถอยไปในค่ำคืนนี้ จะไม่มีคำตำหนิ ติฉินใดๆ ขอพระองค์อัลลอฮ์ (ซบ.) ตอบแทนพวกท่านทุกคน ศัตรูต้องการชีวิตฉันผู้เดียว”

 
แต่สหายผู้ร่วมอุดมการณ์ ทุกคนทั้งหญิงและชายได้เลือก ‘สิ่งที่ดีกว่า’ และเมื่อใดก็ตามที่มนุษย์เลือกสิ่งที่ดีที่สุด การเลือกอันนั้นจะเป็นอมตะ จะเป็นแบบอย่างแก่มวลมนุษยชาติ

 
ถ้าพี่น้องติดตามเหตุการณ์ในวัน ‘อาชูรอ’ มีชะฮีดเกิดขึ้น ทุกๆ คนจะถูกท่านอิมามฮุเซน (อ.) พูดทดสอบจนนาทีสุดท้ายของชีวิตของทุกคน ทั้งลูกหลานและทั้งอัศฮาบ (บรรดาสหาย)

 
ลูกของ ‘มุสลิม บินอากีล’ เข้ามาหาท่านอิมามฮุเซน (อ.) เพื่อขอนุญาติออกรบ ท่านอิมามฮุเซน (อ.) ก็ได้บอกว่า “พอแล้ว…การเป็นชะฮีดของมุสลิม บินอากีล บิดาของเจ้าคนเดียว ก็เพียงพอแล้ว”  แต่เขาก็ไม่ยอม นั่นเพราะ…เขาได้เลือกในสิ่งที่ดีกว่า !!

 
ขบวนการนี้ ทุกคนที่ติดตามท่านอิมามฮุเซน (อ.) มีความยากีนที่แท้จริง เมื่อนั้นพวกเขาจึงได้รับข่าวดี ที่จะได้สรวงสวรรค์ ซึ่งจะไม่มีใครได้ เว้นแต่จะต้องเป็นชะฮีดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น  สวรรค์อื่นเขาไม่เอา…เขาจะเอาสวรรค์อันนั้น…เพียงอย่างเดียว เขาจึงยืนหยัดอย่างมีความสุข !! เหมือนดั่งที่ พระองค์อัลลอฮ์ (ซบ.) ทรงตรัส ไว้ในกรุอานซูเราะห์ฟุศศิลัต โองการที่ 30 ว่า

 
إِنَّ الَّذِينَ قَالُوا رَبُّنَا اللَّهُ ثُمَّ اسْتَقَامُوا تَتَنَزَّلُ عَلَيْهِمُ الْمَلائِكَةُ أَلاَّ تَخَافُوا وَلا تَحْزَنُوا وَأَبْشِرُوا بِالْجَنَّةِ الَّتِي كُنتُمْ تُوعَدُونَ

“แท้จริงบรรดาผู้กล่าวว่าอัลลอฮ์คือ พระเจ้าของพวกเราแล้วพวกเขาก็ยืนหยัดตามคำกล่าวนั้น มะลากิกะฮ์จะลงมาหาพวกเขา (โดยกล่าวกับพวกเขาว่า) พวกท่านอย่าหวาดกลัว และอย่าเศร้าสลดใจแต่จงต้อนรับข่าวดี คือสรวงสวรรค์ซึ่งพวกเจ้าได้ถูกสัญญาไว้”

 
أَلاَّ تَخَافُوا คือคนที่ยืนหยัดในแนวทางของฉัน บุคคลเหล่านี้ จะไม่มีความกลัว ไม่มีความโศกเศร้าใดๆ

 
โองการนี้ถูกอธิบายได้ดีที่สุดในเหตุการณ์กัรบาลา ไม่มีใครสักคนเดียวที่จะมีความหวาดกลัวใดๆ แม้เมื่อรู้ว่าสามีเป็นชะฮีดแล้ว ก็ยังส่งลูกไปเป็นชะฮีดอีก โองการต่อมา (ซูเราะฮ์ฟุศศิลัติ โองการที่ 31) จึงอธิบายต่อว่า

نَحْنُ أَوْلِيَاؤُكُمْ فِي الْحَيَاةِ الدُّنْيَا وَفِي الآخِرَةِ وَلَكُمْ فِيهَا مَا تَشْتَهِي أَنفُسُكُمْ وَلَكُمْ فِيهَا مَا تَدَّعُونَ
“พวกเราเป็นผู้อารักขาพวกท่านทั้งในการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้และปรโลก และสำหรับพวกท่านในสวนสวรรค์นั้น จะได้สิ่งที่จิตใจของพวกท่านปรารถนา และสำหรับพวกท่านในสรวงสวรรค์นั้นจะได้ในสิ่งที่พวกท่านเรียกร้อง”

 
กล่าวคือพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ) คือผู้คุ้มครองของเขา และเขาคือมิตรสหายของอัลลอฮ์ (ซบ.) อะไรที่ต้องการเจ้าจะได้ทุกอย่าง ทุกอย่างที่เขาร้องขอ จะได้ทั้งหมดทุกอย่าง จากพระองค์อัลลอฮ์ (ซบ.) แต่ ต้อง “قَالُوا رَبُّنَا اللَّهُ ثُمَّ اسْتَقَامُوا” (กล่าวว่า อัลลอฮฺคือพระเจ้าของพวกเรา แล้วพวกเขาก็ยืนหยัดตามคำกล่าวนั้น)

 
อันสุดท้ายก็คือการเป็นชะฮีด ที่จะต้องเลือก ไม่มีใครเข้าในสงครามนี้โดยบังเอิญสักคนเดียว ท่านอิมามฮุเซน (อ.) ได้เลือกที่จะชะฮีด และบรรดาอัศฮาบ (สหาย) ก็ยืนยันที่จะเลือก คือเลือกที่จะเป็นชะฮีดเคียงข้างท่านอิมามฮุเซน (อ.)

 
ดังนั้น อุลามาอ์ จึงกล่าวว่า การเป็นชะฮีดจึงต้องเลือกเอง !!

 
เราจะเห็นอีกมุมหนึ่ง บนความเจ็บปวด บนความโศกเศร้า บนความทรมาน เราจะเห็นได้ว่า ทุกคนมีความสุข เป็นความสุขทางจิตวิญญาณ ไม่มีผู้ใดที่มีความกลัว ไม่มีความโศกเศร้าใดๆ เช่น ‘อัสลัม บินอัมร อัลอิรานี’ หนึ่งในชะฮีดชาวอิหร่าน ที่เป็นทาสของท่านอิมามซัยนุลอาบีดีน (อ.) ได้เข้าไปขออนุญาตออกรบ แต่ท่านอิมามฮุเซน (อ.) ให้ไปขออนุญาตจากท่านอิมามซัยนุลอาบีดีน (อ.) เสียก่อน

 
เมื่อได้รับอนุญาต อัสลัมก็ขี่ม้าไปที่กองทัพศัตรู แต่แล้วก็ขี่ม้ากลับมา สร้างความงุนงงเป็นอย่างมาก

 
ขี่ม้ากลับมา เพื่อเล่านิทานให้เด็กๆ ฟังที่กระโจม เพื่อให้เด็กๆ มีความสุข และขี่มากลับไปรบจนกระทั่งเป็นชะฮีด กระดูกมือและแขนทั้งสองของเขา แตกละเอียด

 
และก่อนที่อัสลัมจะเป็นชะฮีด ท่านอิมามฮุเซน (อ.) ได้ขี่ม้าออกไปหา อัสลัมเมื่อเห็นท่านอิมามฮุเซน (อ) มาหา จึงขอร้องให้ท่านอิมามฮุเซน (อ.) รวบมือทั้งสองข้างที่กระดูกแตกละเอียดโอบกอดไปที่ร่างของอิมามฮุเซน (อ.) และอัสลัมได้กอดอิมามฮุเซน (อ.) และได้เผยยิ้มออกมา ท่านอิมามฮุเซน (อ.) ได้ถามว่า “ท่านยิ้มทำไม?” อัสลัมได้ตอบด้วยกวีบทหนึ่งว่า

 
“บนโลกนี้…ใครจะโชคดีไปกว่าฉันอีก…

ฉันลาโลกนี้ไป…ในขณะที่ได้กอด

ดวงอาทิตย์แห่งอิสลาม…ไว้ในอ้อมกอดฉัน…”

 
อัสลัม ได้ยิ้ม และกลับไปสู่ความเมตตาของอัลลอฮ์ (ซบ.) กลับสู่ความปลื้มปิติของอัลลอฮ์ (ซบ.) บรรดาชูฮาดาเกือบทั้งหมดจากโลกนี้ไปด้วยรอยยิ้ม บางครั้งท่านอิมามฮุเซน (อ.) ถามว่า ยิ้มทำไม? เหล่าชุฮาดาทุกคน ตอบเป็นเสียงเดียวกันเหมือนกับ “อัสลัม”

 
จะมีก็เพียงแค่ท่าน ‘ฮุร’ เท่านั้น ที่ก่อนตายยังมีความโศกเศร้าอยู่ เพราะความสำนึกในความผิดที่ได้ทำก่อนหน้านี้ และเมื่อท่านอิมามฮุเซน (อ.) ได้ยืนยันให้กับ “ฮุร” ว่า “ท่านได้เป็นอิสระจากความผิดทั้งปวงแล้ว ท่านได้เป็นอิสระทั้งในโลกนี้และโลกหน้า เหมือนดั่งที่มารดาของท่านได้เรียกท่านว่า “ฮุร” (ผู้เป็นอิสระ)” ท่านฮุร จึงได้เผยยิ้มออกมาก่อนที่วิญญาณจะออกจากร่าง

 
มีเพียงคนๆ เดียวที่เศร้าก่อนจะสิ้นลม คือท่าน ‘อะบูฟัฎล์ อับบาส’ มีหลายรายงานบันทึกว่า ท่านได้หลั่งน้ำตาถึงสองครั้งสองคราด้วยกัน ครั้งที่หนึ่ง…คือ เมื่อท่านมองไปยังที่ถุงน้ำที่ว่างเปล่า และคิดถึงเด็กๆ ที่กำลังรอน้ำจากท่านอยู่ที่กระโจม และครั้งที่สอง…เมื่อท่านรู้แล้วว่า…ท่านคือคนสุดท้ายที่อยู่ในอ้อมกอด ของท่านอิมามฮุเซน (อ.) !! หลังจากนี้อิมามฮุเซน (อ.) ต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว และเดียวดายแล้ว

 

 
 จากหนังสือ “ปรมัตถ์แห่งการพลี สดุดีอาชูรอ” โดยฮุจญตุลอิสลาม ซัยยิดสุไลมาน ฮุซัยนี

0
0% (نفر 0)
 
نظر شما در مورد این مطلب ؟
 
امتیاز شما به این مطلب ؟
اشتراک گذاری در شبکه های اجتماعی:

latest article

ท่านหญิงซัยนับ บินอะลี ...
ทำไมอิสลามห้ามดื่มสุรา
ชีวประวัติอิมามมุฮัมมัด อัล ...
ถุงเท้ามุสลิมะฮ์
อิสลามในโลกยุคใหม่
...
วันประสูติอิมามฮุเซน
ประวัติมัสยิดอัลอักซอ
การถูกล่ามโซ่ของชัยฏอน
ฮะดีษนี้น่าเชื่อถือหรือไม่? : ...

 
user comment