ไทยแลนด์
Friday 26th of April 2024
0
نفر 0

ฟาฏิมะฮ์แบบอย่างของผู้ใจบุญ

สร้อยสิริมงคล
ที่ว่าความพึงพอพระทัยของอัลลอฮ์ มีในการบริจาคทรัพย์สินอย่างมากมายนั้น ก็เพราะว่า การบริจาคคือ สิ่งจรรโลงสังคม และกอบกู้ศักดิ์ศรีของมนุษยชาติให้ยืนหยัดอยู่ได้อย่างสง่างาม ไม่ปล่อยให้มนุษย์ที่ยากจนค่นแค้นตกอยู่ในสภาพระหกระเหินตามยะถากรรม การบริจาคทรัพย์สินคือหลักการหนึ่งของมนุษย์ตั้งแต่ในยุคแรกเริ่ม

คุณค่า,ความดีงามของการบริจาคทรัพย์สิน ที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริงนั้น ไม่ได้อยู่ตรงที่สิ่งของที่บริจาคจะมีค่ามากมหาศาลหรือน้อยนิด แต่จะอยู่ที่ผู้บริจาคซึ่งจะต้องมีความบริสุทธิ์ใจ จริงใจในการแก้ปัญหา และมุ่งตรงต่ออัลลอฮ์

รายงานจากท่านญาบิร บิน อับดุลลอฮฺ อันศอรี (รฏ) กล่าวว่า วันหนึ่ง ณ นครมะดีนะห์ หลังจากที่เราได้ทำการนมาซร่วมกับท่านรอซูล(ศ) ท่านรอซูล(ศ)ได้นั่งอยู่ ณ มุมหนึ่งของมัสยิด โดยที่มีบรรดามุสลิมีน และ บรรดาศอฮาบะห์ของท่านนั่งอยู่รอบ ๆ ท่าน และท่านรอซูลศ)ได้ตอบปัญหาศาสนากับคนเหล่านั่น ทันใดนั้นเองท่านรอซูล(ศ) ก็ ได้ทำการต้อนรับชายชราคนหนึ่งจากมุฮาญิรีนซึ่งมุ่งตรงมายังท่าน(ศ) ในสภาพที่ความหิวกระหาย และความชราภาพแทบที่จะคร่าชีวิตของชายคนนั้นไป
และท่านรอซูล(ศ) ก็ได้ถาม ชายชราคนนั้นถึงความเป็นอยู่ของเขา

ชายชราตอบว่า "โอ้ ผู้เป็นศาสดาของพระเจ้า ฉันหิวเหลือเกิน ได้โปรดจัดอาหารให้ฉันรับประทาน และร่างกายของฉันนั้นเปลือยเปล่า โดยปราศจากเสื้อผ้า ได้โปรดหามันมาสวมให้กับฉันด้วยเถิด "

ท่านรอซูล(ศ) ได้กล่าวว่า " ฉันไม่มีสิ่งใดที่จะมอบให้กับท่านเลย " แต่ทว่า ท่านรอซูล(ศ) ได้แนะนำชายชราคนนั้นในสิ่งที่ดี ซึ่งก็เหมือนกับว่า ท่านได้เป็นผู้กระทำมันเอง และท่านรอซูล(ศ) ได้กล่าวว่า " จงไปยังบ้านของผู้ซึ่งรักอัลลอฮ์(ซบ)และรอซูล(ศ)ของพระองค์ และพระองค์และรอซูล(ศ)ก็รักเขา เจ้าจงไปยังบ้านของฟาฏิมะฮ์เถิด

โอ้ บิลาล จงลุกขี้นและไปกับเขา พาชายชราคนนั้นไปบ้านของฟาฏิมะฮ์ (อ) " ซึ่งบ้านของฟาฏิมะห์นั้น ติดกับบ้านของรอซูล(ศ)
และชายชราคนนั้นก็ได้ออกไปพร้อมกับท่าน บิลาล และเมื่อทั้งสองหยุดอยู่ที่หน้าประตูบ้านของท่านหญิงฟาฏิมะห์ (อ) ชายชราคนนั้นก็ได้ตะโกนเรียกท่านหญิง(อ) ด้วยเสียงอันดังว่า "

السلام عليكم يا اهل بيت النبوة ومختلف الملا ئكة ومهبط جبرئيل الروح الأمين بالتنزيل من عند رب العالمين
ขอความสันติพึงประสบแด่พวกท่าน โอ้อะฮ์ลุลบัยต์ของตำแหน่งนบี สถานที่ผลัดเวรของมะลาอิกะฮ์ สถานที่เสด็จลงของญิบรออีล วิญญาณอันซื่อสัตย์ ต่อการประทานมาจากพระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก

ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ อัซซะฮฺรอ(อ) ได้กล่าวถาม ว่า " ท่านเป็นใคร
ชายชราคนนั้นก็กล่าวตอบว่า " ฉันคือ ชายชราจากมุฮาญิรีน ผู้มาจากหนทางอันยาวไกล และฉันได้พบปะกับ ผู้เป็นบิดาของท่านแล้ว ผู้ซึ่งเป็นนายของมนุษยชาติ โอ้บุตรีของ มุฮัมมัด(ศ) ฉันมีร่างกายที่ไร้อาภรณ์ และหิวกระหายอย่างมาก ได้โปรดช่วยเหลือข้าด้วยเถิด ขอพระองค์ทรงเมตตาต่อท่าน "

และในช่วงเวลานั้น ทั้งอะลีและฟาฏิมะฮ์ไม่มีอะไรเลย นอกจากอาหารที่พอเพียงรับประทานแค่ 3 วัน

ดังนั้น ท่านหญิงฟาฏิมะห์(อ)จึงไปหยิบหนังแกะที่ได้ผ่านการฟอกมาอย่างดี ซึ่งท่านฮะซัน(อ) และท่านฮุเซน(อ) ไว้ใช้เป็นผ้าห่ม มามอบให้กับชายชราคนนั้น พร้อมกับกล่าวขึ้นว่า
" จงเอาสิ่งนี้ไป โอ้ผู้เคาะประตู หวังว่ามันคงมีประโยชน์กับท่านนะ"

ชายชราอาหรับได้กล่าวว่า " โอ้บุตรีของมุฮัมมัด(ศ) ฉันร้องเรียนท่านด้วยความหิวกระหาย แต่ไฉน ท่านจึงเอาหนังแกะมาให้ฉันเล่า แล้วฉันจะเอามันไปทำอะไร ทั้งๆที่ฉันตอนนี้มีแต่ความหิวและยากจนแร้นแค้น"

และเมื่อท่านหญิง(อ) ได้ ยินคำกล่าวของชายคนนั้น ท่านหญิง(อ) ได้ถอดสร้อยจากคอของนาง ซึ่งบุตรีของลุงฮัมซะห์ หัวหน้าของบรรดาชะฮีดได้เป็นผู้มอบให้กับนาง เมื่อท่านหญิง(อ) ถอดมันออกแล้วท่านก็ได้มอบให้แก่ชายชราอาหรับคนนั้น

และกล่าวกับเขาว่า " จงเอาสิ่งนี้ไปและจงนำไปขาย ฉันหวังว่าอัลลอฮฺ (ซบ)จะทรงมอบสิ่งดี ๆ จากสร้อยเส้นนี้ให้กับท่าน "
ชายชราคนนั้นได้นำสร้อยนั้นมา และได้เข้าไปยังมัสยิดอีกครั้งหนึ่งเพื่อจะบอกกล่าวกับท่าน
รอซูล(ศ) ซึ่งท่านรอซูล(ศ) ได้นั่งอยู่ท่ามกลางหมู่ศอฮาบะฮ์ของท่าน(ศ)

และชายชราก็กล่าวว่า " โอ้รอซูลุลลอฮฺ (ศ) ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (อ) ได้มอบสร้อยเส้นนี้ให้กับฉัน และนางกล่าวว่า จงขายมัน"
ท่านอัมมาร บิน ยาซีร(รฏ) ได้ยืนขึ้น พร้อมกับกล่าวถามท่านรอซูล(ศ)ว่า " โอ้รอซูลลุลลอฮ์(ศ) ท่านจะอนุญาตให้ฉันซื้อสร้อยเส้นนี้ไหม "

ท่านรอซูล(ศ) ได้กล่าวว่า " ฉันอนุญาตให้ท่านซื้อ"
อัมมารได้ถามชายชราคนนั้นว่า สร้อยเส้นนี้ราคาเท่าไหร่ ?

ชายชราคนนั้น ก็ตอบว่า " ราคาของมันเพียงแค่ให้ฉันได้อิ่มด้วยอาหารประเภทแป้งและเนื้อ และมีผ้าสวมใส่จากเยเมนเพื่อปกปิดอวัยวะพึงสงวนของฉัน และได้นมาซต่อพระเจ้าของฉัน และมีเงินจำนวนหนึ่งที่เพียงพอสำหรับการเดินทางกลับไปยังครอบครัวของฉัน"

อัมมาร กล่าวว่า " สำหรับท่านจะได้รับ 20 ดีนาร 200 ดีรฮัม และจะได้รับผ้าจากเยเมน และม้าของฉันจะส่งท่านยังครอบครัวของท่าน และแป้ง และเนื้อ ตามที่ท่านขอ "
ชายชรากล่าวว่า " ท่านช่างเป็นผู้ที่เอื้อเฟื้อเหลือเกิน โอ้รอซูลลุลอฮฺ(ศ) ฉันได้รับในสิ่งที่ทำให้เพียงพอแล้วชีวิตของบิดา มารดาของข้าขอพลีแด่ท่าน "

ท่านรอซูล (ศ) ได้กล่าวว่า " มันเป็นคุณงามความดี ของฟาฏิมะฮ์ จงขอดุอาให้แก่นางเถิด "
ชายชราก็ได้ขอดุอาให้แก่ท่านหญิง (อ) ว่า โอ้อัลลอฮฺ (ซบ) พระองค์ คือ พระเจ้า พระเจ้าของเรา ไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่เราจะเคารพบูชาและภักดีนอกจากพระองค์ และพระองค์คือผู้ทรงประทานปัจจัยให้กับพวกเราจากทุกสารทิศ โอ้อัลลอฮฺ(ซบ) โปรดทรงประทานแก่ฟาฏิมะห์ซึ่งความโปรดปรานที่ไม่เคยมีสายตาใดเคยเห็นมันและไม่มีหูใดเคยได้สดับมาก่อน

ท่านรอซูล (ศ) ก็กล่าวอามีน และหันกลับมายัง สหายของท่านอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับกล่าวว่า

" แท้จริง อัลลอฮฺ (ซบ) นั้น ได้ประทานให้แก่ฟาฏิมะฮ์ แล้ว ในดุนยา คือ ฉัน ผู้เป็นบิดาของนาง และไม่มีชายใดในโลกาทั้งหลายที่จะเหมือนฉันและอะลีสามีของนาง และหากไม่มีอะลีก็จะไม่มีฟาฏิมะห์ และทรงมอบฮะซันและฮุเซนแก่นาง ซึ่งไม่มีชายหนุ่มใดในสากลโลกที่จะเสมอเหมือนเขาทั้งสอง ผู้เป็น หัวหน้าของชายหนุ่มแห่งสรวงสวรรค์ และพระองค์ทรงแต่งตั้งให้บรรดามลาอิกะห์จำนวนหนึ่ง เฝ้าอารักขานางจากฝั่งขวาของนางและฝั่งซ้ายของนางและด้านหน้าของนางและด้านหลังของนาง และเขาเหล่านั้นจะอยู่กับนางในตลอดช่วงชีวิตของนาง ตลอดจนวันที่นางถูกนำลงไปในหลุมฝังศพ พวกเขาเหล่านั้นก็จะอยู่กับนาง พวกเขาจะคอยกล่าวคำสรรเสริญแก่นางและบิดาของนางและสามีของนางและบุตรของนาง

ท่านอัมมาร บิน ยาซีร ได้จัดการกับสร้อยเส้นนั้น โดย ทาน้ำหอมจากชะมดเชียง และ ห่อมันในเศษผ้าจากเยเมน และส่งให้กับ ทาส ของเขา พร้อมกับกล่าวว่า " จงเอาสร้อยเส้นนี้ ไปให้แก่รอซูลุลลออฺ(ศ) และ เจ้า ก็เป็นของรอซูล(ศ)

ทาสของอัมมารก็ทำตามที่อัมมารสั่ง โดยมอบให้กับรอซูล(ศ) และกล่าวกับรอซูล(ศ) ตามที่ท่านอัมมาร สั่ง
ท่านรอซูล(ศ) ได้กล่าวแก่ ทาสคนนั้นว่า " จงไปยังฟาฏิมะฮ์ และมอบสร้อยเส้นนี้ ให้แก่นาง และเจ้า ก็เป็นทาสของนาง

ทาสคนนั้น ก็ มาหาท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (ฺอ) และกล่าวกับนางตามที่ท่านรอซูล(ศ) บอก ท่านหญิง(อ) จึงรับสร้ายเส้นนั้นไว้ และทำการปล่อยให้หนุ่มทาสคนนั้นเป็นอิสระ

ทาสคนนั้น จึงร่ำไห้ออกมา ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (อ) จึงถามว่า " อะไรเป็นเหตุทำให้เจ้าร้องไห้หรือ ? "
ทาสคนนั้น ก็กล่าวว่า " ฉันร้องไห้ ด้วยความซาบซึ้งใจแด่ความเป็นสิริมงคลของสร้อยเส้นนี้ ที่สามารถช่วยดับความกระหายของผู้ที่หิวโหย และสามารถมอบอาภรณ์ให้ผู้ที่เปลือยเปล่าได้สวมใส่ สามารถช่วยให้คนยากจนให้มีอย่างพอเพียง และให้อิสรภาพแก่ทาส และสามารถทำให้คนพลัดถิ่นกลับคืนสู่ ครอบครัวของเขา





ขอขอบคุณเว็บไซต์ www.yomyai.com

0
0% (نفر 0)
 
نظر شما در مورد این مطلب ؟
 
امتیاز شما به این مطلب ؟
اشتراک گذاری در شبکه های اجتماعی:

latest article

...
...
ฟาฏิมะฮฺ(อ.) กับสถานภาพอันสูงส่ง
กุรอาน ฆอดีรคุม อิมามอะลี (อ.) ...
สิทธิ ของหู ดวงตาและเท้า
ท่านอะบูฏอลิบ คือ ใคร
ความยุติธรรมของพระผู้เป็นเจ้า ...
“มุบาฮะละฮ์” ในประวัติศาสตร์
จากมักกะฮ์สู่มะดีนะฮ์ ...
มะอาด : ...

 
user comment