มนุษย์ยังคงต้องการคู่มือดำเนินชีวิตจากพระเจ้าหรือไม่ ตอนที่ 1
ในโลกที่เจริญทางด้านวิทยาการทุกสาขา ทำให้ดูเหมือนว่ามนุษย์สามารถดำเนินชีวิตตามครรลองที่ตนเองเลือกได้อย่างมั่นใจ ไม่จำเป็นต้องอาศัยคู่มือการดำเนินชีวิตจากศาสนาอีกต่อไป
มนุษย์สามารถรังสรรค์แนวทางหรือวิถีชีวิตที่ตนต้องการได้อย่างอิสระ
วันนี้ถ้าเราเดินเข้าไปในโชว์รูมรถยนตร์ยี่ห้อที่เราชอบ ไว้วางใจในคุณภาพและสมรรถนะ เมื่อเราทำสัญญาซื้อขายและจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว เราจะได้รับรถคันดังกล่าวมาใช้ทันที
เมื่อเราซื้อรถยนต์ ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยังโรงงานประกอบรถยนต์ยี่ห้อดังกล่าว เพราะเรามีความเชื่อมั่นว่าโรงงานประกอบรถยนต์ยี่ห้อนี้ มีอยู่จริง มีประสิทธิภาพและความสามารถในการประกอบรถออกมาตามคุณภาพที่เราเห็นในโชว์รูม สมบูรณ์ทั้งตัวถัง การตกแต่ง ความประณีตและเครื่องยนต์ กลไกที่ทรงพลัง ทนทาน มีอายุใช้งานยืนยาวหลายสิบปี อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน และอาจจะถึงขั้นเอ่ยชมความสามารถของโรงงานที่ผลิตรถคันนี้ออกมา
มนุษย์ซึ่งเป็นเจ้าของร่างกายและวิญญาณที่สมบูรณ์ หากไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียนและไม่ประสบอุบัติเหตุใดๆ เขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้ด้วยร่างกายนี้เป็นเวลา 70-80 ปีเป็นอย่างน้อย อวัยวะต่างๆ ที่ถูกสร้างมาทั้งหมดถึงแม้จะเป็นเนื้อ เส้นเอ็น เส้นประสาทและผังผืดที่อ่อนนุ่ม แต่มีอายุการทำงานนานปี อวัยวะบางอย่างของมนุษย์ยังหยุดทำงานอยู่ภายหลังมนุษย์หมดลมหายใจไปแล้วด้วยซ้ำ แต่มนุษย์กลับสงสัยหรือไม่เชื่อว่าจะมีผู้ใดหรือที่สร้างร่างกายพร้อมชีวิตของเขามาในสภาพที่ดีเยี่ยมเช่นนี้ มีบางคนอาจจะปฏิเสธเสียด้วยว่าร่างกายและจิตวิญญาณของเขา ไม่มีผู้ใดสร้างขึ้นมาทั้งสิ้น
เมื่อเราจะใช้รถยนต์ที่ซื้อมา ผู้ผลิตจะมีรายละเอียดเป็นเอกสารให้เจ้าของรถยนต์ทุกคนเรียกว่า “คู่มือผู้ใช้” บทนำของคู่มือนี้จะแนะนำว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัท ซึ่งมีประสบการณ์การผลิตรถยนต์นี้มานานเท่าใด และบริษัทมีขีดความสามารถในการผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพมากเพียงใด และบริษัทจะยืนยันว่าขอให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในบริษัท ผู้เป็นเจ้าของรถยนต์ก็จะรู้สึกเชื่อมั่นในผลงานและภูมิใจกับผลงานของบริษัทและมีความเชื่อถือบริษัทนี้มากยิ่งขึ้นด้วย
เมื่อมนุษย์เกิดมาในโลกนี้ ไม่ว่าจะศรัทธาในพระเจ้าหรือไม่ ก็จะปรากฏหนังสือ (คัมภีร์) ซึ่งระบุว่าเป็นของพระเจ้าปรากฏอยู่ ในอิสลามเรียกว่า “อัลกุรอาน” คัมภีร์นี้พระเจ้าทรงแจ้งว่าพระองค์คือผู้ที่สร้างมนุษย์ขึ้นมาในรูปลักษณ์ที่สวยงาม ประกอบด้วยอวัยวะต่างๆ ที่ทำงานอย่างสอดคล้องกันและทรงประสิทธิภาพ ทรงแจ้งด้วยว่ามนุษย์ไม่ต้องกังวลเพราะพระองค์ ทรงสร้างสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดและสมบูรณ์ที่สุดให้มนุษย์
ในบทนำของคู่มือผู้ใช้รถเช่นกัน บริษัทผู้ผลิตรถยนต์จะแจ้งว่า “หนังสือคู่มือเล่มนี้ จัดพิมพ์เพื่อให้ท่านเข้าใจวิธีการใช้ และการตรวจสอบบำรุงรักษารถยนต์ ....... รุ่น ....... อย่างถูกต้อง บริษัท บริษัทหวังว่า ท่านคงปฏิบัติตามคำแนะนำที่ให้ไว้อย่างสม่ำเสมอ ทั้งเพื่อรักษาให้รถของท่านมีอายุการใช้งานยืนนาน ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อม
”
รถยนต์แต่ละคันที่ถูกผลิตออกมาจะมีหมายเลขตัวถัง หมายเลขเครื่อง ถ้าอ้างอิงรหัสและหมายเลขเหล่านี้ถูกต้อง ก็จะได้รับรายละเอียดเกี่ยวกับรถคันนี้ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มผลิตไปจนถึงประวัติการใช้งานและการดูแลรักษา
ในคัมภีร์ของพระเจ้าก็เช่นกัน พระองค์จะทรงแจ้งว่า คัมภีร์นี้ถูกประทานลงมาเพื่อเป็นทางนำ (คู่มือ)ในการใช้ชีวิตของมนุษย์ หากมนุษย์ปฏิบัติตามคู่มือที่พระองค์ประทานลงมา มนุษย์ก็จะมีความสุข สุขภาพกายใจแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ไม่ต้องไปหาหมอเสียค่าหยูกยาแพงๆ
มนุษย์ทุกคนที่เกิดมาจะมีรหัสของตนเองที่อยู่ในยีนส์เรียกว่า DNA ซึ่งจะระบุลักษณะเฉพาะของบุคคลทั้งภายนอกและภายใน ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ชะตากรรมตั้งแต่เกิดจนตาย แม้ร่างกายเน่าเปื่อยไปแล้ว DNA นี้ก็ยังคงอยู่ ไม่มีมนุษย์คนใดในโลกนี้ที่มี DNA ซ้ำกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นฝาแฝดจากไข่ใบเดียวกันก็ตาม
ในคู่มือผู้ใช้รถ บริษัทผู้ผลิตจะระบุว่า รถคันนี้ใช้เชื้อเพลิงประภทใดได้บ้าง เชื้อเพลิงประเภทใดห้ามใช้เด็ดขาด พร้อมทั้งแจ้งอายุการใช้งานของส่วนประกอบของรถยนต์ว่ายาวนานเท่าใด เมื่อครบกำหนดหรือระยะทาง ต้องเปลี่ยนถ่ายออกไป เช่น น้ำมันหล่อลื่น น้ำมันเกียร์ น้ำมันเครื่อง ทั้งยังระบุด้วยว่าน้ำมันต่างๆ ที่ใช้เปลี่ยนนั้นจะต้องอยู่ในเกรดและยี่ห้อใดด้วยจึงจะเหมาะสม อุปกรณ์บางชนิดเช่น กรองอากาศ ลูกยาง แหวนและปะเก็น เป็นต้น หากไม่เปลี่ยนจะทำให้เกิดความเสียหายกับรถยนต์ และบางครั้งอาจจะถึงขั้นเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่ด้วย ผู้ใช้ก็จะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพราะเกรงว่าจะมีผลเสียต่อรถและความปลอดภัยของตนเอง
ในอัลกุรอาน พระเจ้าทรงแจ้งว่า อะไรบ้างที่เป็นอาหารของมนุษย์ สื่งใดที่มนุษย์ไม่สมควรรับประทาน หรือห้ามเด็ดขาด เพราะจะเป็นอันตรายต่อร่างกายของมนุษย์ แต่สิ่งที่แปลกแตกต่างไปจากรถยนต์ก็คือ พระเจ้าทรงประทานร่างกายมนุษย์ให้มีอวัยวะทนทาน ใช้งานตลอดอายุขัย ไม่ต้องเปลี่ยน ถ้าดูแลรักษาให้ดี อาจไม่ต้องซ่อมด้วย ยกตัวอย่างเช่น ตลอดชีวิตของมนุษย์ หัวใจจะเต้นประมาณ (เฉลี่ยนาทีละ 80 ครั้งและมนุษย์มีอายุเฉลี่ย 67.5 ปี) สองพันแปดร้อยล้านครั้ง (2,800,000,000) ในร่างกายมนุษย์จะมีโลหิตอยู่ประมาณ 5.60 ลิตร ปริมาณโลหิตเท่านี้การสูบฉีดโลหิตของเขาตลอดชีวิตจะเท่ากับ 120 ล้านลิตร ในหนึ่งวันหัวใจจะสูบฉีดโลหิตทั่วร่างกายปริมาณเทียบเท่า 7,500 ลิตร และปริมาณ 5.60 ลิตรนี้จะสูบฉีดทั่วร่างกายสามครั้งในหนึ่งนาที ในวันหนึ่งเลือดจะไหลเป็นระยะทาง 12,000 ไมล์ต่อวัน ผ่านระบบเส้นเลือดของร่างกายที่มีความยาวประมาณ 60,000 ไมล์ ในขณะที่หัวใจมนุษย์ (ผู้ใหญ่) มีขนาดเท่ากับกำปั้นสองข้างประกบกัน น้ำหนักประมาณ 300-400 กรัมเท่านั้น
ในหัวใจมนุษย์มีวาล์วที่ทำหน้าที่เปิดปิดไม่ให้โลหิตที่ต้องการให้ไหลออกไปหล่อเลี้ยงร่างกายไหลย้อนกลับมา และป้องกันไม่ให้โลหิตที่ไหลเข้ามาในหัวใจเพื่อฟอกไหลกลับออกไป จำนวนการเปิดและปิดของวาล์วนี้ตลอดชีวิตมนุษย์จะเท่ากับจำนวนการสูบฉีดโลหิตของหัวใจ นั่นคือประมาณสองพันแปดร้อยล้านครั้งเช่นกัน วาล์วนี้เป็นเพียงเนื้อเยื่อบางๆ เท่านั้นเอง แต่มีความทนทานใช้ได้ตลอดชีวิตโดยไม่ต้องเปลี่ยน
เพียงเรื่องหัวใจก็มีรายละเอียดที่ต้องครุ่นคิดและไตร่ตรองมากมายเสียแล้ว
อิมามมุฮัมมัด อัลบากิร (อ.) กล่าวว่า
หัวใจมีสามประเภท
1. หัวใจกลับด้าน เป็นหัวใจที่ขาดความรู้สึกถึงการกระทำที่มีคุณธรรม เป็นหัวใจของผู้ปฏิเสธศรัทธา
2. หัวใจที่มีจุดดำ เพราะมีการต่อสู้กันระหว่างสัจธรรมกับความเท็จ ฝ่ายใดได้รับชัยชนะ จะเป็นผู้ครอบครองหัวใจดวงนั้น
3. หัวใจที่ถูกพิชิต ซึ่งมีโคมไฟสว่างไสว ไม่มีวันดับ หัวใจดังกล่าวคือหัวใจของผู้ศรัทธา
(บิฮารุลอันวารเล่มที่ 70 หน้า 51 คัดจาก www.al-islam.org
(
เราเคยสงสัยหรือไม่ว่า หัวใจทำหน้าที่สูบฉีดโลหิตให้ร่างกาย ฟอกโลหิตใช้แล้วให้สะอาดด้วยการเติมออกซิเจนลงไปในเลือดเสีย หัวใจเอาพลังงานที่ไหนมากระทำภารกิจนี้ตลอดชีวิตมากกว่า 2,800 ล้านครั้ง
หัวใจมีโรงไฟฟ้าของตนเองอยู่ด้านใต้ของหัวใจ โดยจะมีเส้นโลหิตไปหล่อเลี้ยงโรงไฟฟ้านี้ เพื่อให้ส่งกระแสไฟฟ้าเป็นจังหวะเข้ามาที่หัวใจ ซึ่งจะสูบฉีดโลหิตและเปิดปิดวาล์วทั้ง 4 แห่งนี้ ตามจังหวะที่กระแสไฟฟ้าถูกส่งมา โรงงานกระแสไฟฟ้าของหัวใจ จะยังคงทำงานอยู่ได้ ถึงแม้ว่าสมองมนุษย์จะหยุดทำงาน
บทความโดย : Fareed Denyingyoch
