ไทยแลนด์
Tuesday 16th of April 2024
0
نفر 0

บักกะฮ์ ดินแดนที่ถูกวางรากฐานด้วยน้ำตา

บักกะฮ์ ดินแดนที่ถูกวางรากฐานด้วยน้ำตา

 

เกี่ยวกับเหตุผลของการตั้งชื่อ "มักกะฮ์" นั้น มีริวายะฮ์ (คำรายงาน) บทหนึ่งซึ่งเชคซอดูก (ร.ฮ.) บันทึกไว้ในหนังสือ "อิละลุชชะรอเยี๊ยะอ์" โดยผู้รายงาน (รอวีย์) ได้ถามท่านอิมามซอดิก (อ.) ว่า “ทำไมจึงเรียก “มักกะฮ์” ว่า "มักกะฮ์" ท่านอิมามซอดิก (อ.) กล่าวว่า “ชื่อเดิมของ “มักกะฮ์” คือ "บักกะฮ์"

 

      พระผู้เป็นเจ้าทรงตรัสว่า :

 

إِنَّ أَوَّلَ بَيْتٍ وُضِعَ لِلنَّاسِ لَلَّذِي بِبَكَّةَ مُبَارَكًا وَهُدًى لِّلْعَالَمِينَ

"แท้จริงบ้านหลักแรกที่ถูกตั้งขึ้นสำหรับมวลมนุษย์นั้น คือบ้านที่อยู่ ณ บักกะฮ์ เป็นที่ที่มีความจำเริญ และเป็นสิ่งนำทางแก่ชาวโลกทั้งหลาย"

(อัลกุรอานบทอาลิอิมรอนโองการที่ 96)

 

      ผู้รายงาน (รอวีย์) ถามว่า : “ทำไมจึงถูกเรียกว่า "บักกะฮ์" แล้วทำไมจึงถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "มักกะฮ์”

 

      ท่านอิมามซอดิก (อ.) กล่าวว่า : “เนื่องจากดินแดนนี้ถูกวางรากฐานขึ้นด้วยการร่ำไห้และน้ำตา โดยที่อาดัม ซอฟียุลลอฮ์ (อ.) หลังจากลงมายังดินแดนแห่งนี้ ท่านได้ร้องไห้อย่างมาก และหนึ่งใน "บักกาอีน" (ผู้ร้องไห้อย่างมาก) ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ คือ อาดัม ซอฟียุลลอฮ์ (อ.) และดินแดนแห่งนี้คือดินแดนที่ท่านศาสดาอิบรอฮีม (อ.) หลังจากการใช้ชีวิตอยู่ในสภาพการรอคอยการมีบุตร เมื่ออัลลอฮ์ได้ทรงประทานอิสมาอีล (อ.) ให้แก่ท่าน ท่านได้นำภรรยาและ (อิสมาอีล) บุตรชายของท่านไปพำนักอยู่ในดินแดนนี้ตามพระบัญชาของอัลลอฮ์ ทั้งท่านและพระนางฮาญัร (ภรรยาของท่าน) และอิสมาอีล (บุตรชายของท่าน) ได้ร้องไห้อย่างมากในสถานที่แห่งนี้ น้ำตาจึงเป็นส่วนหนึ่งของปรัชญาและปฐมเหตุแห่งการมีอยู่ของดินแดนแห่งนี้”

 

     ในริวายะฮ์ (คำรายงาน) อีกบทหนึ่ง ผู้รายงาน (รอวีย์) ได้ถามว่า : “ทำไม “บักกะฮ์” จึงถูกเปลี่ยนชื่อเป็น “มักกะฮ์” ท่านอิมามซอดิก (อ.) ได้กล่าวว่า : “ดินแดนแห่งนี้หลังจากระยะเวลาหนึ่งมันได้กลายมาเป็นสถานที่ตั้งของบรรดารูปเจว็ด (รูปปั้นเคารพบูชา) และในยุคญาฮิลียะฮ์ (อนารยะ) ก่อนการมาของอิสลาม การเคารพบูชารูปเจว็ดได้ก่อตัวขึ้นในสถานที่แห่งนี้ และรูปปั้นจำนวน 360 รูป รวมทั้งรูปปั้นเฉพาะอีก 5 รูป ถูกนำเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ ดังนั้นจำนวนของรูปเจว็ดเท่ากับจำนวนวันของปีได้ถูกนำมาตั้งไว้ในสถานที่แห่งนี้ และบรรดามุชริกีน (ผู้ตั้งภาคี) จะมีพิธีกรรมและประเพณีต่างๆ สำหรับบรรดาพระเจ้าจอมปลอมของตน” ในคัมภีร์อัลกุรอาน โองการที่ 35 ของซูเราะฮ์อัลอันฟาล อัลลอฮ์ได้ทรงตรัสว่า :

 

وَمَا كَانَ صَلاَتُهُمْ عِندَ الْبَيْتِ إِلاَّ مُكَاء وَتَصْدِيَةً

"และการนมาซของพวกเขา ณ บ้านของอัลลอฮ์นั้น มิได้เป็นอื่นใดเลย นอกจากการส่งเสียงหวีดร้องและการปรบมือเท่านั้น"

 

     บรรดามุชริกีน (ผู้ตั้งสิ่งอื่นเป็นภาคีต่ออัลลอฮ์) จะทำการเคารพบูชาบรรดารูปเจว็ดของพวกเขาในลักษณะเช่นนี้ และเนื่องจากพิธีกรรมเหล่านี้ดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องจนเป็นปกติ เสียงของการหวีดร้องและการปรบมือจะถูกได้ยินเสียงอย่างมากในสถานที่แห่งนี้ และบนพื้นฐานดังกล่าวนี้เองที่ "บักกะฮ์" จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็น "มักกะฮ์" (ดินแดนแห่งการหวีดร้อง)

 

แปลและเรียบเรียง : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ

 

0
0% (نفر 0)
 
نظر شما در مورد این مطلب ؟
 
امتیاز شما به این مطلب ؟
اشتراک گذاری در شبکه های اجتماعی:

latest article

ปรัชญาของวันอีดฟิตร์
...
...
ตัฟซีร ซูเราะฮ์อัลอิคลาศ ตอนที่ ...
การผ่าดวงจันทร์ (ชักกุ้ลกอมัร) ...
บันทึกประวัติ “ปาเลสไตน์” ...
...
ดุอากุเมล คำอ่านพร้อมความหมาย
อัลกุรอาน โองการสุดท้ายคืออะไร ...
ความอธรรมในอัลกุรอาน

 
user comment