มุอ์มินที่เข้มแข็งดีกว่ามุอ์มินที่อ่อนแอ
ท่านอายะตุลลอฮฺหุสัยน์ นูรีย์ ฮัมดานีย์ ได้กล่าวให้โอวาทกับคณะกรรมการสมาคมมวยปล้ำแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านว่า “ประชาชาติมุสลิมจะต้องเก่งกว่า ดีกว่า ประเสริฐกว่าทุกประชาชาติทั้งในด้านศีลธรรมและวัตถุ”
“ประชาชาติอิสลามจะต้องมีอำนาจ มีพลังและอิทธิพลในทางสร้างสรรค์ต่อชาวโลก ทุกหน่วยงาน ทุกองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการปฏิวัติจะต้องสำแดงพลังอิสลามให้ประจักษ์ในทุกมิติ”
มัรฺญิอฺตักลีดท่านนี้ยังกล่าวต่อไปว่า “เพราะบะรอกัต – ความศิริมงคลของการปฏิวัติอิสลามนี้เองที่ทำให้ทุกสายตาประชาคมโลกต่างจ้อง มอง ในขณะเดียวกัน ณ วันนี้ การปฏิวัติอิสลามที่ถูกจับตามองอย่างเขม็งจากพวกมหาอำนาจและพวกอหังการ กำลังพัฒนาไปสู่ประเทศที่เป็นความหวังของเหล่ามุสตัฎอะฟีนและมะหฺรูมีน (ผู้ด้อยโอกาสและถูกกีดกันทางสังคม) ดังนั้น ไม่ว่าท่านจะอยู่บนเวทีใด แวดวงอะไร จะต้องสำแดงพลังทางสร้างสรรค์ และพลังทางศีลธรรมพลังอิสลามและการปฏิวัติให้เป็นที่ประจักษ์แก่ชาวโลก”
อายะตุลลอฮฺหุสัยน์ นูรีย์ ฮัมดานีย์ กล่าวอีกว่า “สายตาทั้งหลายต่างจับจ้องมาที่ประชาชาติอิหร่าน คลื่นพลังของการปฏิวัติอิสลามต้องเผชิญหน้ากับเหล่ามหาอำนาจและจักรวรรดิ นิยม จนกระทั่ง ณ วันนี้เทคโนโลยีและวิชาการได้พัฒนาก้าวไกลไปอย่างไม่หยุดยั้ง ท่านทั้งหลายจะต้องเป็นฟันเฟืองของการปฏิวัติอิสลามในการสำแดงพลังทางจิต วิญญาณ ศีลธรรม และในทุก ๆ มิติ”
ท่านยังกล่าวถึงกีฬาและการออกกำลังกายว่าถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ สามารถก้าวไปในทุกเวทีการแข่งขันในเชิงสร้างสรรค์ เพราะนอกจากกีฬาจะช่วยดึงเยาวชนคนหนุ่มสาวให้หลีกห่างจากยาเสพติดแล้ว ยังมีอิทธิพลช่วยเสริมสร้างความคิด สติปัญญาและโลกทัศน์ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย”
ท่านกล่าวว่า “ร่างกายคือจ๊อกกี้ของวิญญาณ จ๊อกกี้ที่แข็งแรงสมบูรณ์จะสามารถควบขี่พาหนะด้วยท่วงท่าและศิลปะที่สวยงาม”
ท่านยังกล่าวอีกว่า “ฉันก็เป็นนักกีฬา ฉันไม่เคยทิ้งการออกกำลังกายแม้แต่วันเดียว สุขภาพที่แข็งแรงและหัวใจที่เบิกบานในวัย 84 ปีของฉันก็เป็นผลมาจากการออกกำลังกายนี่แหละ”
ความคิดและสติปัญญา ของฉันในวันนี้กับในอดีตไม่เคยแปรเปลี่ยน โรคภัยไข้เจ็บไม่เคยเบียดเบียนฉัน สาเหตุสำคัญเพราะฉันออกกำลังกายทุกวันทั้งก่อนรุ่งอรุณ และจะขึ้นเขาทุกวันก่อนพลบค่ำ”
“ถึงแม้ฉันจะไม่เคยอยู่ว่างเกินกว่า 5 นาที ซึ่งเวลานาทีของฉันจะหมดไปกับแวดวงวิชาการ แต่เพราะการออกกำลังกายเป็นประจำ ภารกิจสำหรับฉันจึงไม่เป็นเรื่องหนักแต่อย่างใด”
ท่านยังกล่าวต่อไปว่าสำหรับฉันถือว่าการออกกำลังกายเป็นวาญิบ เพราะการมีสุขภาพแข็งแรงจะมีอิทธิพลต่อภารกิจทั้งทางจิตวิญญาณและสังคม โดยท่านกล่าวว่า “ไม่มีโอสถขนานใดจะทดแทนการออกกำลังกายได้ ยิ่งถ้ามนุษย์ได้ออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ เขาจะปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งปวง”
“นักกีฬาจะต้องสำแดงพลังทั้งทางร่างกายและจิตวิญญาณ พลังทางศีลธรรมอิสลามและการปฏิวัติ”
ในช่วงสุดท้ายของคำให้โอวาท ท่านอายะตุลลอฮฺหุสัยน์ นูรีย์ ฮัมดานีย์ ได้กล่าวกับนายกสมาคมมวยปล้ำว่า “การที่ท่านให้การสนับสนุนระบอบการปกครองอิสลามและ “วิลายะตุลฟะกีฮฺ” ถือเป็นสิ่งที่น่ายกย่องชมเชย”
ท่านได้ชี้ให้เห็นว่าประชาชนถือว่าอิสลามและ “วิลายะตุลฟะกีฮฺ” คือองค์ประกอบสำคัญของระบอบการปกครองของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน “เมื่อเหล่าศัตรูไม่สามารถกระชากประชาชนออกจากอิสลามกับการปฏิวัติ จึงโหมกระหน่ำมรสุมเข้าใส่ “วิลายะตุลฟะกีฮฺ” เพื่อให้แกนหลักหลุดจากขั้วของสาธารณรัฐอิสลาม”
“แต่เพราะการปฏิวัตินี้อยู่ภายใต้ความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ การสนับสนุนของบรรดาอะอิมมะฮฺ มะอฺศูมีน (อลัยฮิมุสลาม) และประชาชน และเพราะบะรอกัต – ความจำเริญจากโลหิตของชุฮะดาอ์ – วีรชนที่พลีชีพเพื่อการปฏิวัติอิสลาม การปฏิวัตินี้จะธำรงตราบจนกระทั่งการซุฮูรฺ – ปรากฎของท่านอิมามอัศรฺ (อัจญะลัลลอฮุฟะเราะญะฮุจชะรีฟ)
อินชาอัลลอฮฺ
แปลโดย สายธารพิสุทธิ์
