ไทยแลนด์
Tuesday 19th of March 2024
0
نفر 0

แนวทางในการรู้จักอิมามมะฮ์ดีย์



แนวทางในการรู้จักอิมามมะฮ์ดีย์

สำหรับการรู้จักอิมามมะฮ์ดีย์ (อ.) ,คุณสมบัติของท่าน, การเร้นกาย และการปรากฏกายอีกครั้ง ไม่มีวิธีการใดดีไปกว่าอัล-กุรอานและริวายะฮ์ คำรายงานของบรรดาอิมามมะอฺซูม (อ.) และด้วยกับการอ้างอิงจากอัล-กุรอานและริวายะฮ์เหล่านั้น ปัจจุบันมีหนังสือที่เขียนถึงท่านอิมามมากมายเกินกว่า 1,000 เล่ม ซึ่งสามารถกล่าวได้ว่าหนังสือและบทความต่าง ๆ ที่เขียนถึงอิมามเป็นเพียงส่วนเล็กน้อยของความรู้เกี่ยวกับตัวแทนสุดท้ายของพระผู้เป็นเจ้า เนื่องจากแนวความคิดต่าง ๆ เกี่ยวกับการมีอยู่ของท่านไม่ได้แตกต่างไปจากการมีอยู่ของท่านอิมามอะลี (อ.)

ดั่งฮะดีษของท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) กล่าวว่า

 โอ้อะลีเอ๋ย ไม่มีผู้ใดรู้จักอัลลอฮ์ นอกจากฉันและเจ้า ไม่มีผู้ใดรู้จักฉันนอกจากอัลลอฮ์และเจ้า และไม่มีผู้ใดรู้จักเจ้านอกจากอัลลอฮ์(ซบ.) และรอซูลของพระองค์

นอกจากนี้แล้ว เป็นเพราะว่าความพิเศษของช่วงการเร้นกายไม่มีผู้ใดสามารถมั่นใจได้ว่าทุกคำสั่งของท่านอิมามได้มาถึงพวก ดั่งสิ่งเดียวที่สามารถทำให้เรารู้จักอิมามมะฮ์ดี (อ.) ได้ดีที่สุดคืออัล-กุรอานและริวายะฮ์ดังที่กล่าวไปแล้ว เช่น  ที่กล่าวว่า

 ฉันถามซะอีด บิน มุซัยยับว่า : มะฮ์ดีย์เป็นเรื่องจริงหรือ กล่าวว่า แน่นอนเป็นเรื่องจริง

 ฉันถามว่า : แล้วมะฮ์ดีมาจากเผ่าไหน กล่าวว่า : มาจากเผ่ากะนานะฮ์

 ฉันถามต่อว่า มาจากตระกูลใด กล่าวว่า :   มาจากกุเรช

ฉันถามว่า จากผู้ใด กล่าวว่า :  มาจากสายตระกูลของบนีฮาชิม

ฉันถามว่า เป็นลูกของใคร กล่าวว่า :  เป็นบุตรของท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ (อ.)

 

จุดประสงค์ของคำว่า กะนานะฮ์ หมายถึง กะนานะฮ์ บิน คุซัยมะฮฺ บิน มุดเราะกะฮ์ บิน อิลยาซ บิน มุฎิร บิน นิซาร บิน มะอฺดิ บิน อัดนาน ปู่ทวดของท่านศาสดา (ซ็อล ฯ)

 

ณ ที่นี้จะนำเสนอริวายะฮฺทั้งฝ่ายชีอะฮ์และซุนนีย์ที่กล่าวถึงอิมามมะฮฺดียฺเอาไว้เพื่อกการรู้จักอิมามมะฮฺดียฺ (อ.) ให้มากยิ่งขึ้น เช่น

 

อิมามมะฮ์ดีย์ในริวายะฮ์ชีอะฮฺ

ตำราอันทรงคุณค่าหลายเล่มของชีอะฮฺ เช่น อุซูลกาฟียฺ อัลฆัยบะฮฺ อัลนุอฺมานียฺ และเล่มอื่น ๆ อีกมากมายได้บันทึกฮะดีซเกี่ยวกับท่าน

อิมามมะฮฺดียฺ (อ.) เอาไว้ ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญเป็นพิเศษเกี่ยวกับท่านอิมาม

 บางครั้งอาจจะเห็นว่าริวายะฮฺบางบทได้กล่าวอย่างห้วน ๆ เนื่องจากว่าเงื่อนไขของสังคมและขอบข่ายที่จำกัดทำให้นักปราชญ์ไม่อนุญาตให้กล่าวสิ่งใดมาำกไปกว่านั้น เพราะอาจเป็นสาเหตุำทำให้ภาพพจน์ของสังคมในยุคนั้นต้องรำส่ำระสายไปมากยิ่งขึ้น

 

 ณ ที่นี้จะนำเสนอริวายะฮฺต่าง ๆ จากบรรดามะอฺซูม (อ.) ที่ได้กล่าวเกี่ยวกับท่านอิมามมะฮ์ดีย์ (อ.) เอาไว้เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจ ความใกล้ชิด และเป็นการทำความรู้จักกับท่านอิมามให้มากยิ่งขึ้น เช่น

1. ท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) กล่าวถึงอิมามมะฮ์ดีย์ (อ.)

 มะฮ์ดีย์ (อ.) เป็นบุตรของฉันชื่อของเขาคือชื่อของฉัน ฉายานามของเขาคือฉายานามของฉัน กิริยามารยาทและการสร้างของเขาคล้ายฉันมากกว่าประชาชาติทั้งหมด เขาจะเร้นกายหายไปซึ่งประชาชาติในยุคนั้นจะหลงทาง หลังจากนั้นจะปรากฏกายออกมาอีกครั้งเหมือนดาวเสาร์ที่สุกสดใส และจะทำให้โลกเปี่ยมล้นไปด้วยความยุติธรรมดั่งที่โลกเคยเปี่ยมล้นด้วยความอธรรมมาแล้ว[1]

 

ท่านอิมามซอดิก (อ.) กล่าวว่า ท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) กล่าวว่า โชคดีสำหรับคนที่รู้จักกออิมแห่งอะฮฺลุลบัยตฺของฉัน และได้ปฏิบัติตามก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืนหยัด เชื่อฟังปฏิบัติตามเขาและอะอิมมะฮฺผู้ชี้นำทางท่านอื่นก่อนเขา และมุ่งขอความคุ้มครองจากอัลลอฮฺให้พ้นจากบรรดาศัตรูของเขา เหล่านั้นคือมวลมิตรของฉัน และเป็นประชาชาติที่มีเกียรติที่สุดสำหรับฉัน[2]

 

2. ท่านอิมามอะลี (อ.) กล่าวถึงอิมามมะฮ์ดีย์ (อ.)

ท่านอิมามอะลี (อ.) ขณะที่กล่าวสรรเสริญอัลลอฮฺ (ซบ.) และท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) ท่านได้กล่าวว่า

พวกเราคือ รัศมีแห่งฟากฟ้าและแผ่นดินเป็นเรือที่ให้ความช่วยเหลือ วิชาการและความรู้ถูกบันทึกอยู่ ณ พวกเรา ยังพวกเราคือเป้าหมายของทุกภารกิจการงาน และมะฮฺดียฺของเราคือข้อพิสูจน์สุดท้าย เขาคืออิมามมะอฺซูมคนสุดท้ายที่จะทำการช่วยเหลือประชาชาติทั้งหลาย เขาคือนูรสุดท้ายแห่งสาร (ของพระผู้เป็นเจ้า) และเป็นความเร้นลับที่ถูกปิดบัง ขอแสดงความยินดีต่อบุคคลที่ยึดมั่นอยู่กับสายเชือกของพวกเรา และได้ร่วมอยู่บนความรักที่มี่ต่อพวกเรา[3]

อิมามญะวาด (อ.) กล่าวว่า ท่านอิมามอะลี (อ.)

สำหรับกออิมของเราจะมีการเร้นกายที่ยาวนาน ฉันเป็นห่วงชีอะฮฺของฉันในช่วงการเร้นกายว่าจะระหกระเหินเสมือนฝูงแกะที่ไม่มีจ่าฝูงที่คอยตามหาทุ่งหญ้าแต่ไม่พบ พึงสังวรไว้เถิดว่าบุคคลใดก็ตามที่สร้างความมั่นคงให้ศาสนาของเขา และหัวใจของเขาไม่แข็งกระด้างเนื่องจากการเร้นกายที่ยาวนานของอิมามของเขา ดังนั้น เขาคือพวกของฉัน และในวันกิยามัตเขาจะยืนอยู่ตำแหน่งเดียวกับฉัน[4]

 

3. ท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ (อ.)

ท่าน ญาบิร อับดุลลอฮฺ อันซอรีย์ กล่าวว่า ฉันได้ไปหาท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (อ.) และฉันได้เห็นแผ่นบันทึกในมือของท่าน ซึ่งบันทึกรายนามของบรรดาตัวแทนของท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) ทั้งหมดเป็นบุตรหลานของท่านหญิง ฉันได้นับนามเหล่านั้นมีทั้ง สิ้น 12 ท่าน ท่านสุดท้ายคือ

อัลกออิม (อ.) สามท่านมีนามว่ามุฮัมมัด และอีกสามท่านมีนามว่าอะลี[5]

 

4. อิมามฮะซัน มุจญฺ์ตะบา (อ.)

โอ้ประชาชน พวกท่านไม่ทราบหรือว่าพวกเราครอบครัวของท่านศาสดาทุกคนต้องทนให้สัตยาบันกับผู้ปกครองที่อธรรมในยุคของตน ยกเว้นกออิม (อ.) ซึ่งศาสดาอีซา บุตรของมัรยัม (อ.) จะนมาซตามหลังเขา อัลลอฮฺ ผู้ทรงเกรียงไกรทรงปิดบังการประสูติของเขา และทรงเร้นกายของเขา ซึ่งจะปรากฏกายมาอีกครั้งหนึ่งโดยที่ผู้ให้สัตยาบัน จนกระทั่งบุตรคนที่เก้าของฮุซัยนฺน้องชายของฉัน ซึ่งเป็นบุตรชายของสตรีที่อยู่ในครอบครอง อัลลอฮฺ (ซบ.) ทรงทำให้เขามีอายุยืนยาวในช่วงของการเร้นกาย และจะปรากฏกายออกมาโดยอำนาจของพระองค์โดยที่มีใบหน้าอ่อนกว่าคนอายุ 40 ปี และจงรู้ไ้ว้ว่า อัลลอฮฺ (ซบ.) ทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่ง[6]

 

5. อิมามฮุซัยน์ (อ.)

 มาตรว่าอายุขัยของโลกจะเหลือแค่วันเดียว อัลลอฮฺจะทรงทำให้วันนั้นยาวนานออกไป จนกระทั่งชายหนุ่มจากครอบครัวของฉันได้ปรากฏกายออกมา และจะทำให้โลกนี้เปี่ยมล้นไปด้วยความยุติธรรม ดั่งที่โลกเคยเปี่ยมล้นด้วยความอธรรมมาแล้ว ดังที่ฉันได้ยินท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) กล่าวเป็นประจำ[7]

ถ้าหากมะฮ์ดีย์ได้ลุกขึ้นยืนหยัด จะมีประชาชนปฏิเสธและไม่รู้จัก เนื่องจากท่านได้กลับมาในสภาพของชายหนุ่ม ขณะที่พวกเขาคิดว่า ท่านคือชายชราที่สูงอายุ[8]

 

6. อิมามซัจญาด (อ.)

  ภายหลังจากชะฮาดัตของท่านอิมามฮุซัยน์ (อ.) ขณะที่กองคาราวานถูกต้อนไปสู่เมืองชาม ประเทศซูเรียปัจจุบัน ซึ่งวันนั้นตรงกับวันศุกร์พอดี นักปราศรัยของยะซีดได้ขึ้นกล่าวคำเทศนาที่น่าขยะแขยง อิมามซัจญาด (อ.) ได้ลุกขึ้นยืนโต้ตอบกับเขาทันที่ หลังจากนั้นท่านได้กล่าวว่า

โอ้ประชาชนเอ๋ย อัลลอฮฺ (ซบ.) ได้ประทานคุณสมบัติ 7 ประการให้กับพวกเรา  และให้พวกเรามีความประเสริฐ 7 ประการเหนือกว่าบุคคลอื่น อัลลอฮฺ (ซบ.) ทรงประทานวิชาการความรู้ ความอดทนพิเศษ ความโอบอ้อมอารี วาทศิลป์ในการพูด ความกล้าหาญให้กับพวกเรา และให้ความรักที่มีต่อพวกเราบรรจุอยู่ในจิตใจของผู้ศรัทธาทุกคน

และให้พวกเรามีความประเสริฐ 7 ประการเหนือกว่าบุคคลอื่นได้แก่

ท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) ผู้ได้รับการเลือกสรรจากอัลลอฮฺ (ซบ.) มาจากพวกเรา

ในหมูพวกเรามีบุคคลที่มีความสัจจะที่สุดในหมู่ประชาชาติได้แก่ อะลีอมีรุลมุอฺมินีน (อ.)

ในหมู่พวกเรามี ผู้ได้รับเกียรติอันสูงส่งจากอัลลอฮฺ (ซบ.) ได้แก่ ญะอ์ฟัรฏอยยาร

ในหมู่พวกเรามีราชสีห์แห่งอัลลอฮฺ (ซบ.) และเราะซูลของพระองค์ได้แก่ ชะฮีดฮัมซะฮ์

ในหมู่พวกเรามีไข่มุกอันล้ำค่าสำหรับประชาชาติได้แก่ ฮะซันและฮุซัยน์

ในหมู่พวกเรามีมะฮ์ดีย์ เป็นอิมามท่านสุดท้ายสำหรับประชาชาตินี้

 

ท่านอิมาม (อ.) กล่าวต่ออีกว่า กออิมมาจากพวกเราการประสูติของเขาไม่เป็นที่เปิดเผยสำหรับประชาชน จนกระทั่งประชาชนกล่าวว่า เขายังไม่ได้กำเินิดขึ้นมาจนกระทั่งเขาได้ปรากฏกายออกมาโดยไม่มีผู้ให้สัตยาบันก่อนมาก่อน[9]

 

7. อิมามบากิร กล่าว (อ.)

จะมีช่วงเวลาหนึ่งประสบกับประชาชน อิมามจะเร้นกายไปจากพวกเขา ดังนั้น ขอแสดงความยินดีกับปวงชนที่ได้อยู่ร่วมสมัยกับอิมามแห่งยุคของตน[10]

 

8. อิมามซอดิก (อ.)

สำหรับกออิมของเราจะเร้นกาย 2 ครั้ง ครั้งแรกเร้นกายในช่วงสั้น และอีกครั้งเร้นกายในระยะยาว[11]

 

9. อิมามกาซิม (อ.)

อิมามมะฮ์ดีย์ จะเร้นกายไปจากสายตาของประชาชน แต่หัวใจของผู้ศรัทธาจะรำลึกถึงตลอดเวลา[12]

 

10. อิมามริฎอ (อ.)

เมื่ออิมามมะฮ์ดีย์ ลุกขึ้นยืนหยัด แผ่นดินจะเต็มไปด้วยรัศมีของท่าน อิมามจะตั้งตราชูในหมู่ผู้คน หลังจากนั้นจะไม่มีผู้ใดกดขี่กันและกันอีกต่อไป[13]

 

11. อิมามญะวาด (อ.)

กออิมของเราคือบุคคลที่ประชาชนต่างเฝ้ารอคอยการปรากฏตัว ขณะที่เขาเร้นกาย และเมื่อเขายืนขึ้นผู้โอหังทั้งหลายต่างสิ้นซากเนื่องจากคำสั่งของเขา[14]

 

12. อิมามฮาดีย์ (อ.)

อิมามหลังจากฉันคือบุตรของฉัน ฮะซัน และหลังจากเขาคือบุตรของเขา อัล-กออิม ผู้ที่จะทำให้แผ่นดินเปี่ยมล้นไปด้วยความยุติธรรม ประหนึ่งที่เคยเต็มไปด้วยความอยุติธรรม[15]

 

13. อิมามฮะซันอัซการีย์ (อ.)

ขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์มิได้พรากฉันไปจากโลกนี้ จนกระทั่งพระองค์ได้แสดงตัวแทนของฉันให้ฉันเห็น เขาเป็นบุคคลที่การสร้าง และจริยธรรมคล้ายคลึงกับท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) มากกว่าบุคคลใดทั้งสิ้น[16]

 


อ้างอิง

[1] บิฮารุลอันวาร เล่ม 51 หน้า 72, กะมาลุดดีน เล่ม 1 หน้า 287

 

[2] 72, กะมาลุดดีน  หน้า 287

 

[3] บิฮารุลอันวาร เล่ม 74 หน้า 300

 

[4] กะมาลุดดีน หน้า 303

 

[5] อัลกาฟียฺ เล่ม 1 หน้า 522 บาบ มาญาอะ ฟีล อิซนาอะชะเราะ

 

[6]  กะมาลุดดีน หน้า 317

 

[7]  บิฮารุลอันวาร เล่ม 51 หน้า 133

 

 

 

[8] มุอฺญิมุล อะฮาดีซ อิมามมะฮฺดียฺ (อ.) เล่ม 3 หน้า 354

 

[9] กะมาลุดดีน เล่ม 1 หน้า 324

 

[10] กะมาลุดดีน เล่ม 1 หมวดที่ 3 ฮะดีซที่ 3 หน้า 584

 

[11] ฆัยบัต นุอ์มานีย์ หมวดที่ 10 ภาคที่ 4 ฮะดีซที่ 5 หน้า 176

 

[12] อ้างแล้วเล่มเดิม หมวดที่ 34 ฮะดีซที่ 6 หน้า 57

 

[13] เล่มเดิม หมวดที่ 35 ฮะดีซที่ 5 หน้า 60

 

[14] เล่มเดิม หมวดที่ 36 ฮะดีซที่ 1 หน้า 70

 

[15] เล่มเดิม หมวดที่ 37 ฮะดีซที่ 10 หน้า 79

 

[16] เล่มเดิม หมวดที่ 37 ฮะดีซที่ 7 หน้า 118

 

ขอขอบคุณเว็บไซต์อิสลามชีอะฮ์

 

0
0% (نفر 0)
 
نظر شما در مورد این مطلب ؟
 
امتیاز شما به این مطلب ؟
اشتراک گذاری در شبکه های اجتماعی:

latest article


 
user comment