ไทยแลนด์
Saturday 20th of April 2024
0
نفر 0

การสมรสระหว่างอิมามอะลี (อ.)และท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (อ.)ในอัลกุรอาน

การสมรสระหว่างอิมามอะลี (อ.)และท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (อ.)ในอัลกุรอาน



การสมรสระหว่างอิมามอะลี (อ.)และท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (อ.)ในอัลกุรอาน

 

"เมื่อพิจารณาถึงโองการของคัมภีร์อัลกุรอานสามารถกล่าวได้ว่า มีสองแห่งในกุรอานได้ชี้ถึงการสมรสระหว่างท่านอมีรุ้ลมุอ์มินีนอะลี บินอบีฏอลิบ (อ.) กับกับท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (อ.)"

       หนึ่งในเหตุการณ์แห่งประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในเดือนซุลฮิจญะฮ์ ในปีฮิจญ์เราะฮ์ศักราชที่สอง คือการสมรสของท่านอมีรุ้ลมุอ์มินีนอะลี บินอบีฏอลิบ (อ.) กับกับท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ อัซซะฮ์รอ (อ.) ด้วยผลจากการสมรสอันจำเริญนี้ ได้นำมาซึ่งความดีงามและความจำเริญอันมากมายสำหรับมนุษยชาติ

       บางทีอาจจะมีคำถามเกิดขึ้นว่า คัมภีร์อัลกุรอานได้ชี้ถึงการสมรสของท่านทั้งสองนี้ไว้บ้างหรือไม่? จำเป็นต้องกล่าวว่าในคัมภีร์อัลกุรอานสามารถพบคำตอบของคำถามนี้ได้ในสองแห่ง :

       ที่แรกอยู่ในบทอัลเกาซัร และอีกที่หนึ่งในบทอัรเราะห์มาน สำหรับในบทอัลเกาซัรนั้น คือโองการที่พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงสูงส่งได้ทรงตรัสว่า :

إِنَّا أَعْطَیْنَاکَ الْکَوْثَرَ

"แท้จริงเราได้มอบความดีงามที่มากมายให้แก่เจ้า" (1)

 

       ในความเป็นจริงแล้ว หนึ่งในตัวอย่างของ "ความดีงามที่มากมาย" (อัลเกาซัร) ก็คือการดำรงอยู่ของบรรดาอิมามมะอ์ซูม (อ.) ที่มาจากเชื้อสายของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ อัซซะฮ์รอ (อ.) และเป็นสื่อทำให้ความดีงามที่เปี่ยมล้น (เกาซะรียะฮ์) ในตัวของท่านหญิงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องในตลอดระยะเวลาของประวัติศาสตร์ ประเด็นดังกล่าวนี้เกิดจากการสมรสของท่านหญิงกับท่านอิมามอะลี (อ.) ในฐานะที่เป็นคู่ที่เหมาะสม (กุฟว์) เพียงหนึ่งเดียวของท่านหญิง

 

        ส่วนที่ที่สองของคัมภีร์อัลกุรอานที่ชี้โดยทางอ้อมถึงการสมรสของท่านอมีรุ้ลมุอ์มินีน (อ.) กับท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ อัซซะฮ์รอ (อ.) คือโองการที่ 19 ถึง 22 ในบทอัรเราะห์มาน ที่พระผู้เป็นเจ้าทรงตรัสว่า :

 

 مَرَجَ الْبَحْرَیْنِ یَلْتَقیانِ بَیْنَهُما بَرزَخٌ لایَبْغیانِ فَبِاَىّ آلاءِ رَبِّکُما تُکَذِّبانِ یَخْرُجُ مِنْهُما اللّؤْلُؤُ وَ الْمَرْجانُ

"พระองค์ทรงทำให้ทะเลทั้งสอง ไหลมาบรรจบกัน  ระหว่างมันทั้งสองมีสิ่งขวางกั้น โดยที่ทั้งสองจะไม่ล้ำเขตต่อกัน ดังนั้น ยังมีความโปรดปรานอันใดของพระผู้อภิบาลองเจ้าทั้งสองอีกเล่าที่เจ้าทั้งสองปฏิเสธ? มีไข่มุกและหินปะการังสีแดงออกมาจากมันทั้งสอง" (2)

 

        ท่านอิมามซอดิก (อ.) ได้กล่าวในการอรรถาธิบายโองการนี้ว่า :

 

عَلی وَ فاطِمةُ علیهما السلام بَحْران عَمیقان لایَبْغی اَحَدهُما عَلی صاحِبه، یَخْرُجُ مِنْهُماَ، الّلُؤلُؤ وَ الْمَرْجان، قال: الحَسَنُ وَ الَحُسین علیهما السلام

"อะลีและฟาฏิมะฮ์ (อ.) คือสองทะเลลึกที่ไม่ล่วงล้ำต่อกัน "มีไข่มุกและหินปะการังออกมาจากมันทั้งสอง" ท่านกล่าวว่า : หมายถึง ฮะซันและฮุเซน (อ.)" (3)

 

เชิงอรรถ :

 

1)- อัลกุรอานบทอัลเกาซัร โองการที่ 1

2) - อัลกุรอานบทอัรเราะห์มาน โองการที่ 19 – 22

3) -ตัฟซีร นะมูเนะฮ์, เล่มที่ 23, หน้าที่ 133 อ้างจากตัฟซีร กุมมี, เล่มที่ 2, หน้าที่ 344

 

เรียบเรียง : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ

0
0% (نفر 0)
 
نظر شما در مورد این مطلب ؟
 
امتیاز شما به این مطلب ؟
اشتراک گذاری در شبکه های اجتماعی:

latest article

...
สงคราม “อาร์มาเกดอน” ...
ความสำคัญของน้ำนมแม่ ...
อิมามญะอ์ฟัร ซอดิก (อ.) ...
อาลัมบัรซัค ...
อิสลาม : ศาสนาแห่งสันติ
สถานภาพการเมือง ...
คุณค่าของการเศาะลาวาต
หมายเหตุการเข้ารับอิสลาม ...
...

 
user comment