ไทยแลนด์
Friday 29th of March 2024
0
نفر 0

ท่านอะบูฏอลิบ คือ ใคร

อะบูฏอลิบ คือบุตรชายของอับดุลมุฏฏอลิบ ซึ่งมีศักดิ์เป็นบิดาของอิมามอะลี (อ.) และเป็นลุงของท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) โดยประวัติศาสตร์อิสลามได้บันทึกไว้อย่างชัดเจนถึง ความศรัทธาของท่าน และเป็นผู้ศรัทธาคนหนึ่ง ที่มีอีมานต่อท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) และในยามคับขันที่ปัญหาต่าง ๆ ได้ถาถมเข้ามาในช่วงแรกของการประกาศอิสลาม ท่านก็จะเป็นผู้ช่วยเหลือท่านศาสดาและอยู่ใกล้ชิดต่อศาสดาหรือแม้แต่ในยามที่ท่านศาสดาอยู่เดียวดาย จะมีเพียงแต่อะบูฏอลิบนี้เคียงข้างท่านเสมอ และเป็นผู้ที่ปกป้องท่านศาส
ท่านอะบูฏอลิบ คือ ใคร

อะบูฏอลิบ คือบุตรชายของอับดุลมุฏฏอลิบ ซึ่งมีศักดิ์เป็นบิดาของอิมามอะลี (อ.) และเป็นลุงของท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) โดยประวัติศาสตร์อิสลามได้บันทึกไว้อย่างชัดเจนถึง ความศรัทธาของท่าน และเป็นผู้ศรัทธาคนหนึ่ง ที่มีอีมานต่อท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) และในยามคับขันที่ปัญหาต่าง ๆ ได้ถาถมเข้ามาในช่วงแรกของการประกาศอิสลาม ท่านก็จะเป็นผู้ช่วยเหลือท่านศาสดาและอยู่ใกล้ชิดต่อศาสดาหรือแม้แต่ในยามที่ท่านศาสดาอยู่เดียวดาย จะมีเพียงแต่อะบูฏอลิบนี้เคียงข้างท่านเสมอ และเป็นผู้ที่ปกป้องท่านศาสดาอีกด้วย

ครอบครัวของอะบูฏอลิบ ท่านได้ประสูติภายในครอบครัวของท่านอับดุลมุฏฏอลิบ ผู้เป็นปู่ของท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) เป็นวีระบุรุษที่ปฏิบัติตามแนวทางของท่านศาสดาอิบรอฮีม (อ.) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วแคว้นอาหรับว่า ในช่วงที่สถานการณ์ตกต่ำและมีอันตรายอย่างใหญ่หลวง ท่านไม่เคยหลีกเลี่ยงการปกป้องแนวทางของพระผู้เป็นเจ้า ในตอนนั้นอับเราะฮะฮฺ ได้ยกกองทัพช้างมุ่งหน้ามายังมักกะฮฺเพื่อทำลายบัยตุลลอฮฺ ในระหว่างทางเหล่าทหารของอับเราะฮะฮฺได้ยึดฝูงอูฐของท่านไป เมื่อท่านอับดุลมุฏ็อลลิบต้องการนำฝูงอูฐกลับคืน จึงได้เดินเข้าไปหา  อับเราะฮะฮฺได้ถามด้วยความประหลาดใจว่า ทำไมท่านไม่ขอร้องฉันให้ยกทัพกลับ และไม่ต้องทำลายกะอฺบะฮฺ แทนการเรียกเอาฝูงอูฐกลับคืน

ท่านอับดุลมุฏ็อลลิบ ได้ตอบอย่างกล้าหาญด้วยความเชื่อมั่นในพระผู้เป็นเจ้าว่า

أنا ربّ الإبل و للبيت ربّ يمنعه

ฉันเป็นเจ้าของฝูงอูฐ และบ้านหลังนี้ก็มีเจ้าของ ซึ่งเจ้าของจะปกป้องบ้านของเขาเอง

ในเวลานั้นท่านได้มุ่งหน้าไปยังมักกะฮฺและไปหยุดอยู่ที่ข้าง ๆ กะอฺบะฮฺ ขณะที่มือทั้งสองยังกำบั้งเหี้ยนม้าอยู่  ท่านได้กล่าวขึ้นว่า

 

ياربّ لا أرجولهم سواكا  ياربّ فامنع منهم حماكا

ان عدو البيت من عاداكا  امنعهم أن يخربوا فناكا

โอ้พระผู้อภิบาล ฉันไม่เคยมีความหวังกับใครอื่นเว้นแต่พระองค์ โอ้พระผู้อภิบาลโปรดรักษาฮะรัมให้ปลอดภัยจากศัตรู

ศัตรูบ้านหลังนี้ต้องการวิวาทกับพระองค์  โปรดขัดขวางพวกเขาในการทำลายบ้านของพระองค์

 

คำพูดเช่นนี้ย่อมแสดงให้เห็นว่า ผู้พูด (อับดุลมุฏฏอลิบ บิดาของอะบูฏอลิบ) มีความศรัทธาและเคารพภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสูงส่ง

ด้วยเหตุนี้ ยะอฺกูบียฺ จึงเขียนเกี่ยวกับอับดุลมุฏฏอลิบไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์ของตน ซึ่งประโยคหนึ่งกล่าวว่า

 

رفض عبادة الأصنام و وحّد الله عزّوجل

อับดุลมุฏฏอลิบเป็นผู้ห่างไกลจากการเคารพบูชารูปปั้น และมีความเชื่อในพระเจ้าองค์เดียว

 

ลองพิจารณาดูซิว่า อับดุลมุฏฏอลิบที่เคารพภักดีในพระเจ้าองค์เดียว มีความคิดอย่างไรเกี่ยวกับอะบูฏอลิบบุตรชายของตน

อะบูฏอลิบในทัศนะของอับดุลมุฏฏอลิบ จากมุมมองของประวัติศาสตร์ที่นักประวัติศาสตร์ได้บันทึกไว้ ทำให้ได้แง่คิดหลายประการ เช่น บางคนบอกว่าท่านอะบูฏอลิบเป็นผู้ล่วงรู้ถึงการเป็นศาสดาของท่านมุฮัมมัด ในอนาคตอันใกล้

สมัยที่ ซัยฟฺ บิน ซียัซซัน เป็นผู้ปกครองฮะบะชะฮฺ( เอธิโอเปีย) อยู่ ท่านอับดุลมุฏฏอลิบในฐานะผู้นำขบวนได้เข้าพบ หลังจากที่ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่าง ๆ แล้ว ซัยฟฺได้กล่าวแสดงความยินดี กับอับดุลมุฏ็อลลิบว่า ช่างโชคดีเสียเหลือเกินที่ศาสดาผู้ทรงเกียรติ เป็นสมาชิกในครอบครัวท่าน หลังจากนั้นได้กล่าวถึงคุณสมบัติส่วนตัวของท่านศาสดาว่า

اسمه محمد يموت أبوه و أمّه ويكفله جدّه و عمّه

นามของเขาคือ มุฮัมมัด บิดามารดาของเขาจะเสียชีวิตลง และเขาจะได้รับการดูแลโดยปู่ และลุงของเขา

 

และได้กล่าวถึงคุณสมบัติอื่น ๆ ของท่านศาสดาอีกว่า

يعبد الرّحمن و يدحض الشيطان و يخمد النيران و يكسر الأوثان قوله فصلٌ و حكمه عدلٌ و يأمر بالمعروف و يفعله و ينهى عن المنكر و يبطله

เขาเคารพภักดีในพระเจ้าผู้ทรงเมตตา ออกห่างจากชัยฏอนมารร้าย ดับไฟนรกที่ลุกโชน  ทำลายรูปปั้นทั้งหลาย คำพูดของเขาคือมาตรฐานในการจำแนกความจริงกับความเท็จ คำบัญชาของเขาวางอยู่บนพื้นฐานความยุติธรรม เขาจะเชิญชวนประชาชนไปสู่ความดี และเขาเป็นผู้ประพฤติความดี และเขาจะห้ามปรามความชั่วร้าย และเป็นผู้ทำลายความชั่ว

 

หลังจากนั้นได้กล่าวกับอับดุลมุฏฏอลิบว่า

انّك لجده يا عبد المطلب غير كذب

ไม่ต้องสงสัย ท่านคือปู่ของศาสดาท่านนั้น

 

ท่านอับดุล มุฏฏอลิบ เมื่อได้ยินคำกล่าวแสดงความยินดีเช่นนั้น ท่านได้ซัจดะฮฺขอบคุณ และกล่าวถึงการประสูติอันจำเริญของศาสดาว่า ฉันมีบุตรที่รักมากคนหนึ่ง ฉันได้แต่งงานเขากับสตรีที่มีเกียรตินามอามีนะฮฺ ซึ่งเป็นบุตรีของวะฮับ บิน อับดุลมะนาฟ และเธอได้คลอดบุตรชายมาคนหนึ่งฉันตั้งชื่อเขาว่ามุฮัมมัด หลังจากนั้นไม่นานบิดาและมารดาของเด็กน้อยก็ได้อำลาจากไป ฉันจึงฝากให้อะบูฏอลิบ ผู้เป็นลุงของเขาดูแล

จากคำพูดดังกล่าวแสดงว่า อับดุลมุฏฏอลิบ รู้เรื่องการเป็นศาสดาของหลานตั้งแต่ยังเด็กอยู่ ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงนำหลานไปฝากให้อะบูฏอลิบ บุตรชายที่มีเกียรติอีกคนเป็นผู้ดูแล

อะบูฏอลิบ ในสายตาของบิดาเขาคือผู้ศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียว มีอีมานที่เข็มแข็ง และเป็นผู้ดำรงความดีงาม ท่านจึงได้ไว้ใจให้เป็นผู้ดูแลหลานชายผู้ที่จะได้เป็นศาสดาที่ยิ่งใหญ่ในวันข้างหน้า

 

ขอขอบคุณเว็บไซต์อิสลามชีอะฮ์


source : alhassanain
0
0% (نفر 0)
 
نظر شما در مورد این مطلب ؟
 
امتیاز شما به این مطلب ؟
اشتراک گذاری در شبکه های اجتماعی:

latest article

อาชญากรรมยะซีด ...
อรรถาธิบายดุอาอฺ ประจำวันที่ 1 ...
...
เหตุผลของท่านอิมามฮะซัน (อ.) ...
บทธรรมเทศนาของอิมามริฎอ
ทำไมต้องซัจดะฮฺบนดิน
...
ดุอาประจำวันที่ 17 ...
...
เป้าหมายของการถือศีลอด ...

 
user comment