ไทยแลนด์
Friday 29th of March 2024
0
نفر 0

การไว้วางใจในพระเจ้า

การไว้วางใจในพระเจ้า การไว้วางใจและความสงบในใจ ในชีวิตที่ไม่แน่นอนนั้น มนุษย์ต้องการความมั่นคงมากกว่าสิ่งใดๆ ผู้ที่ดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้บรรลุถึงจุดหมายโดยไม่มีอาวุธคือความมั่นคงนั้น ย่อมจะต้องประสบความล้มเหลวและความพ่ายแพ้ อันที่จริงนั้นเมื่อความรับผิดชอบของคนเ
การไว้วางใจในพระเจ้า

การไว้วางใจในพระเจ้า

 

    การไว้วางใจและความสงบในใจ

 

    

ในชีวิตที่ไม่แน่นอนนั้น มนุษย์ต้องการความมั่นคงมากกว่าสิ่งใดๆ ผู้ที่ดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้บรรลุถึงจุดหมายโดยไม่มีอาวุธคือความมั่นคงนั้น ย่อมจะต้องประสบความล้มเหลวและความพ่ายแพ้ อันที่จริงนั้นเมื่อความรับผิดชอบของคนเราเพิ่มขึ้น ความจำเป็นที่จะต้องมีความมั่นคงและแน่นอนก็เพิ่มขึ้นด้วย ด้วยเหตุนี้ จึงกลายเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องเรียนรู้ถึงวิธีการหลีกเหลี่ยงความวิตกกังวล และวิธีแสวงหาความมั่นคงและแน่นอนมาใส่ตน

 

     

การดิ้นรนเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สมบัติ อำนาจ ชื่อเสียง และผลกำไรด้านวัตถุอื่นๆ นั้นเป็นเพียงสิ่งเท็จสิ่งปลอม ความพยายามที่ใช้ไปในหนทางนี้จะเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ เนื่องจากความสุขของมนุษย์นั้นอยู่ในดวงจิตของเราเอง เมื่อธารแห่งความทุกข์ฝังลึกอยู่ในหัวใจของเขา ผู้นำแห่งความศรัทธากล่าวว่า “ยารักษานั้นอยู่ภายในจิตใจของมนุษย์เอง ดังนั้นเราจึงไม่สามารถพบสิ่งที่มีประสิทธิภาพจากอิทธิพลภายนอกได้เหมือนกับสิ่งที่มีอยู่ในจิตวิญญาณของมนุษย์เอง เพราะเหตุว่าอิทธิพลภายนอกนั้นเป็นสิ่งชั่วคราว จึงเป็นไปไม่ได้ที่มันจะนำมนุษย์ไปสู่ความพึงพอใจอย่างสมบูรณ์ได้”

 

     

อพิคเตตัส ได้กล่าวว่า “เราต้องบอกให้มนุษย์รู้ว่า เขาไม่สามารถพบความสุขและความโชคดีอยู่ในที่ที่เขาแสวงหาเพื่อตัวเองอย่างตามบุญตามกรรมได้ ความสุขที่แท้จริงนั้นมิได้อยู่ในอำนาจและความสามารถ ทั้งมิราดและอกลูอิส ต่างก็เป็นคนที่มีความทุกข์ ทั้งๆ ที่มีอำนาจอยู่อย่างมากมาย ในทำนองเดียวกัน ความสุขก็มิได้อยู่ที่ความร่ำรวยและเงินทองจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น โครอีสัสไม่มีความสุข ทั้งๆ ที่เขาร่ำรวยมีทรัพย์สมบัติมหาศาล เราจะหาความสุขจากอำนาจการปกครองหรืออำนาจทางการเมืองก็ไม่ได้อีกเช่นกัน กษัตริย์โรมันต่างก็ไม่มีความสุข ทั้งๆ ที่มีอำนาจมากมายใหญ่หลวง

 

    

ที่จริงแล้วเรามิอาจหาความสุขได้ด้วยการมีสิ่งต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดเสียด้วยซ้ำไป ใครๆ ก็รู้ดีว่า นีโร แซนด์เนปาลและอฆัมนินนั้นต้องร้องไห้อยู่เรื่อยไป เพราะพวกเขาเป็นเหมือนของเล่นที่อยู่ในมือของความโชคร้าย แต่กระนั้นคนเหล่านี้ก็มีทั้งความร่ำรวย อำนาจและชื่อเสียง เพราะฉะนั้นมนุษย์ต้องแสวงหาความสุขที่แท้จริงจากจิตวิญญาณและจิตสำนึกของเขาเอง”

 

     

เราต้องยอมรับว่าในธรรมชาตินั้นมีปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้อีกมากมาย และการที่มีเครื่องจักรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนั้นไม่เป็นการเพียงพอที่จะทำให้ชีวิตไร้กังวลได้ เครื่องจักรกลเหล่านี้มิใช่แต่เพียงไม่สามารถลดจำนวนความทุกข์ในโลกลงได้เท่านั้น แต่ยังนำเอาปัญหาและความไม่แน่นอนใหม่ๆ มาให้มนุษย์อีกมากมายด้วย

 

     

เพราะฉะนั้นเพื่อที่จะปลดปล่อยตัวเราเองให้พ้นจากความทุกข์ของชีวิตซึ่งมีอยู่ตลอดไป และเพื่อให้พ้นจากเมฆหมอกอันดำมืดซึ่งทำให้จิตวิญญาณของเรามืดมนไป เราจึงจำต้องมีความนึกคิดที่ได้รับการนำทางอย่างถูกต้องเสียโดยเร็ว ความนึกคิดนั้นสามารถหาความสุขมาให้มนุษย์ได้ ในทำนองเดียวกันกับสิ่งที่สามารถนำเอาความก้าวหน้าหลายๆ อย่างในชีวิตทางด้านวัตถุมาให้ ตรงนี้เองที่พลังแห่งความคิดจะปรากฏออกมาอย่างชัดเจน และสำแดงอิทธิพลอันน่าพิศวงที่มีต่อชีวิตมนุษย์ออกมาให้เห็น

 

     

การมีความนึกคิดที่โปร่งใสนั้นเปรียบได้ดังกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ซึ่งพัดพาให้มนุษย์ไปสู่ระดับที่ดีเลิศได้มากกว่า ซึ่งผลกำไรทางวัตถุจะทำได้ด้วยการนำเขาไปสู่โลกใหม่ที่กว้างขวาง การคิดที่ถูกต้องเที่ยงธรรมจะป้องกันคนที่เฉลียวฉลาดไม่ให้กลายเป็นของเล่นในมือของคนร่ำรวยได้ ผู้ที่มีความสามารถในการคิดและทำความคิดของเราให้เจริญเติบโตจนกลายเป็นศูนย์กลางของชีวิตความเป็นอยู่ของตน ด้วยการให้ทัศนะที่กว้างไกล

 

     

เพื่อที่จะคุ้มครองตัวเราไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของเหตุการณ์ต่างๆ และเพื่อที่จะป้องกันตัวเราจากการละเลยไม่สนใจ รวมทั้งการมองเห็นสิ่งใดจนเกินจริง เราก็ต้องสร้างตาชั่งแห่งความคิดขึ้นให้กับตัวเรา สำหรับใช้พิจารณาพฤติกรรมและความประพฤติของเรา ซึ่งจะนำทางเราให้อยู่ในแนวความคิดที่ถูกต้อง จะทำให้เรามีพลังจิตสามารถเอาชนะความวิตกกังวลได้

 

     

นักวิชาการชั้นนำชาวตะวันตกคนหนึ่งกล่าวว่า “บางที่เราไม่อาจสามารถเลือกบุคคลที่มีความประพฤติและวิธีคิดเหมือนกับเราได้ แต่เราก็มีอิสระที่จะเลือกความคิดของเราเอง เราเป็นผู้พิพากษาความนึกคิดของเราเอง เราอาจเลือกเอาสิ่งที่เราถือว่าเหมาะสม สาเหตุและอิทธิพลจากภายนอกนั้นไม่ใช่ส่วนหนึ่งของเรา นอกจากเราจะยอมให้มันมาควบคุมและบีบบังคับให้เราคิดไปในทางนั้นๆ ได้ เพราะฉะนั้นเราต้องเลือกแนวความคิดที่ถูกต้องและตัดแนวทางที่ไม่ดีออกไปเสีย จิตวิญญาณของเราก็จะถูกนำไปยังแนวความคิดของเรา หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ความคิดของเราย่อมนำเราไปในลักษณะใดๆ ที่มันต้องการ ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่ควรปล่อยให้ตัวเรายึดถือความคิดอันชั่วร้ายใดๆ ไว้ หรือยอมให้สิ่งที่เราไม่พอใจมาครอบครองความนึกคิดของเราไว้ เพราะความคิดเช่นนั้นจะจับเราไว้  และทำให้เรากลายเป็นเหยื่อของความทุกข์นานาประการ เราต้องดิ้นรนต่อสู้ต่อไปให้ถึงความสมบูรณ์ ความหวังอันดีงามที่สุด และจุดหมายอันมีเกรียติที่สุด เนื่องจากความลับแห่งความสำเร็จและความสุขนั้นมีอยู่ในความคิดอันเที่ยงธรรมเท่านั้น”

 

 

คัดลอกจากหนังสือ : อาวุธแห่งชีวิต เขียนโดย : ซัยยิดมุจตาบา มูซาวี ลารี


source : alhassanain
0
0% (نفر 0)
 
نظر شما در مورد این مطلب ؟
 
امتیاز شما به این مطلب ؟
اشتراک گذاری در شبکه های اجتماعی:

latest article

อรรถาธิบายดุอาอ์ประจำวันที่ 10 ...
โองการวิลายัต ...
1 ซุลฮิจญะฮ์ ...
การผ่าดวงจันทร์ ...
...
การไว้วางใจในพระเจ้า
ทำไม อิบลิส (ซาตาน) ...
ดุอากุเมล มรดกอันล้ำค่า
อัล-กุรอาน, ...
ความสำคัญของบิสมิลลาฮ์ ...

 
user comment